คันเจ้าได้ขี่ซ้างกั้งฮ่มเป็นพระยา อย่าได้ลืมคนทุกข์ผู้ขี่ควายคอนกล้า ## ถ้าได้ดิบได้ดีหรือได้เป็นใหญ่แล้ว ก็อย่าได้ลืมผู้คนรอบข้าง @อย่าลืมบุญคุณคนที่เคยเอื้อเฟื้อเรา ## |
ตกมาเดือนเมษายนปีนี้ผู้ข้าสังมาหนาวแท้นอบาดนี้ พุ้นนะ! ผู้ลางคนกะสิหว่าอาวทิดหมูเลาเป็นบ้าล่ะบ้อ "ฮ้อนจนไหม้" เลาคือมาหนาวอยู่ผู้เดียว บ่ได้จ่มผิดเด้อขอรับ กระบาตรหนาวย้อนเห็นบิลค่าไฟฟ้ามันพุ่งขึ้นสองเท่านั้นแหม่ พี่น้องเป็นคือกันบ่หือ... เปิดพัดลมกะมีแต่พัดฮ้อนวูบๆ มาแหม่ บาดสิไปอาบน้ำให้มันเย็นๆ ลงแหน่กะเกือบตาย เปิดก็อกน้ำไหลมาว่าแหม่นน้ำต้มเดือดๆ โอยๆ ฮ้อนคักแหน่แท้เด้ บ่มีคำสิบรรยายขอใช้รูปภาพที่เพิ่นแชร์ๆ กันในเฟซบุ๊คมาอธิบายกะแล้วกัน
เดือนพฤษภาคม หรือบ้านเฮาเอิ้นว่า "เดือนหก" มีงานบุญประเพณีอีสานที่สำคัญๆ หลายๆ งาน แต่ที่เป็นที่รู้จักโด่งดังกันไปทั่วโลกคือ "ประเพณีบุญบั้งไฟ" โดยเฉพาะงานประเพณีที่จังหวัดยโสธร ถือว่าเป็นงานประเพณีระดับโลก มีเมืองคู่แฝดไกลไปถึงตำบลชิชิบุ เมืองโยชิดะ จังหวัดไซตามะ ประเทศญี่ปุ่น ที่มีประเพณีการจุดบั้งไฟคล้ายๆ กันกับจังหวัดยโสธร และมีความสัมพันธ์เป็นเมืองคู่แฝดกันมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2536 สำหรับเดือนหกปี 2567 นี้ก็มีงานบุญประเพณีที่น่าสนใจ ดังนี้
งานประเพณีบุญบั้งไฟ เป็นงานประเพณีท้องถิ่นของชาวอีสาน ที่เกี่ยวข้องกับวิถีชีวิต และความเชื่อทางศาสนาของชาวอีสานมาช้านาน โดยเชื่อว่าเมื่อเข้าสู่ฤดูกาลปักดำทำนา จะต้องจุดบั้งไฟขึ้นไปบูชาพญาแถนบนฟากฟ้า เพื่อขอให้พญาแถนซึ่งได้ชื่อว่าเป็น "เทพแห่งฝน" ได้ดลบันดาลให้ฝนตกต้องตามฤดูกาล เพื่อให้สรรพสิ่งบนผืนโลกได้ดำเนินวีถีชีวิตไปตามครรลองที่ควรจะเป็น
โดยเฉพาะผู้คนบนผืนดินอีสาน ที่มีวิถีชีวิตผูกพันกับการทำใร่ทำนามาช้านาน ต้องอาศัยข้าวและพืชผลทางการเกษตร ในการหล่อเลี้ยง ดำรงชีวิตมาโดยตลอด น้ำฝนจากฟ้าจึงมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง พิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์ คืองานประเพณีแห่ และจุดบั้งไฟจึงถูก สร้างสรรค์ขึ้นมาเพื่อเป็นความหวัง และกำลังใจ ของชาวอีสานมาโดยตลอด งานประเพณีบุญบั้งไฟจะจัดขึ้นเป็นประจำปีทุกปี ชมขบวนแห่บั้งไฟ และการจุดบั้งไฟแสน และบั้งไฟหมื่น ชมวิถีของคนทำบั้งไฟ และบรรยากาศการทำบั้งไฟ เพื่อเป็นการสืบสานวัฒนธรรมประเพณีของจังหวัดให้คงอยู่สืบไป
เดือนห้า "เมษายน" ปีนี้คือสิซุ่มเย็นกันหลายอยู่ ย้อนหว่า "ประเพณีสงกรานต์" บ้านเฮาได้รับรองจาก UNESCO ได้ประกาศขึ้นทะเบียน “สงกรานต์ในประเทศไทย” เป็นรายการในบัญชีตัวแทนมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ ลำดับที่ 4 ของไทย โดยก่อนหน้านี้ UNESCO ได้ประกาศขึ้นทะเบียนวัฒนธรรมไทยมาแล้ว ดังนี้:
การจัดงานประเพณีสงกรานต์ก็คงจะครึกครื้น คึกคักกันทั่วประเทศ มีข่าวออกมาว่าจะรดน้ำกันให้ฉ่ำเย็น ตั้งแต่วันที่ 1-21 เมษายน รวม 21 วัน (อุต๊ะ! ย้านสังคังขึ้นเด้หวา จริงๆ แล้วบ่แม่นพร้อมกันทั่วประเทศ 21 มื้อเด้อพี่น้อง จะมีการจัดกิจกรรมกระจายกันไปตามจังหวัดต่างๆ รอดูตารางที่ทางภาครัฐจะออกมาก่อน) แต่ที่แน่ๆ เทศกาลสงกรานต์จริงๆ ก็ยังเป็นวันที่ 13-14-15 เมษายน เหมือนเดิม (แต่ทางรัฐบาลประกาศให้หยุดเพิ่มจากวันที่ 12-16 เมษายน เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว) สำหรับเทศกาลงานประเพณีในเดือนเมษายนปีนี้มีดังนี้
ยินดีต้อนรับสู่ประตูอีสานบ้านเฮา เว็บไซต์ของเรา ใช้คุกกี้ (Cookies) เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น อ่านนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy) และนโยบายคุกกี้ (Cookie Policy)