foto1
foto1
foto1
foto1
foto1
ช่วงนี้อากาศแปรปรวนนะครับ ฤดูหนาวแต่ร้อน และมีฝนตกกระจายทั่วประเทศเลยทีเดียว และตอนนี้ก็ฤดูเก็บเกี่ยวของชาวนาซึ่งไม่ได้เก็บเกี่ยวด้วยมือแบบดั้งเดิมแล้ว แต่หันมาใช้รถเกี่ยวข้าวแทนซึ่งทำได้รวดเร็วกว่ามากๆ แต่ก็มีปัญหาตามมาคือข้าวเปลือกมันยังไม่แห้งเก็บเข้ายุ้งฉางไม่ได้ ต้องมีการตากแดดให้แห้งก่อนสัก 2-3 วัน พอมีฝนมาแบบนี้ก็แย่เลย บางรายก็เอาไปตากบนถนนหนทางซึ่งอันตรายมากๆ อย่าหาทำเด้อพี่น้อง มันผิดกฎหมาย...😭🙏😁

: Our Sponsor ::

adv200x300 2

: Facebook Likebox ::

: Administrator ::

mail webmaster

: My Web Site ::

krumontree200x75
easyhome banner
ppor 200x75
isangate net200x75

e mil

No. of Page View

paya supasit

ju juคันเจ้าได้ขี่ซ้างกั้งฮ่มเป็นพระยา อย่าได้ลืมคนทุกข์ผู้ขี่ควายคอนกล้า

        ## ถ้าได้ดิบได้ดีหรือได้เป็นใหญ่แล้ว ก็อย่าได้ลืมผู้คนรอบข้าง @อย่าลืมบุญคุณคนที่เคยเอื้อเฟื้อเรา ##

chumphon

ภูมิลำเนา/การศึกษา/
การทำงาน
chumphon
  • บ้านปะอาว หมู่ 11 ตำบลหนองขอน อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี
  • ปริญญาตรี การศึกษาบัณฑิต (กศ.บ.) ประวัติศาสตร์
    มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ มหาสารคาม
  • ปริญญาโท อักษรศาสตร์มหาบัณฑิต (อ.ม.) ประวัติศาสตร์
    จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
  • ครูสอนวิชาประวัติศาสตร์ โรงเรียนอำนาจเจริญ จังหวัดอำนาจเจริญ (2517-2532)
  • ศึกษานิเทศก์ กรมสามัญศึกษา จังหวัดอุบลราชธานี
  • หัวหน้าหน่วยศึกษานิเทศก์ กรมสามัญศึกษา จังหวัดอุบลราชธานี
  • หัวหน้ากลุ่มนิเทศก์ติดตามและประเมินผลการจัดการศึกษา
    สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาอุบลราชธานี เขต 2
ผลงานทางวิชาการ
เกียรติประวัติ
  • เป็นผู้บรรยายพิเศษ วิชา ป.611 สัมมนาประวัติศาสตร์ไทยชั้นสูง สำหรับนิสิตปริญญาโท สาขาประวัติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (18 มิถุนายน - 5 ตุลาคม 2527)
  • เป็นกรรมการคุวบคุมปริญญานิพนธ์ ระดับปริญญาโท วิชาเอกประวัติศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ มหาสารคาม
  • ได้รับเชิญจาก The Center for Souteast Asian Studies มหาวิทยาลัยเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น ให้เป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่อง การเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ-สังคม ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย ไปทำการวิจัยและบรรยายพิเศษ ณ มหาวิทยาลัยเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น เป็นเวลา 6 เดือน (23 เมษายน - 22 ตุลาคม 2539)
สถานที่ติดต่อ
  • หัวหน้ากลุ่มนิเทศก์ติดตามและประเมินผลการจัดการศึกษา
    สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาอุบลราชธานี เขต 2
  • ถนนตระการ - พนา ตำบลขุหลุ อำเภอตระการพืชผล จังหวัดอุบลราชธานี 34130
  • โทร. 0-4548-2411- 413, 0-4548-1245   โทรสาร. 0-4548-1210
ปัจจุบัน
  • เกษียณอายุราชการแล้ว แต่ยังคงทำงานศึกษาวิจัยด้านประวัติศาสตร์อีสาน พื้นถิ่นลุ่มน้ำโขง ร่วมกันกับผองเพื่อนนักวิชาการไทย-ญี่ปุ่น
  • ติดต่อทางโทรศัพท์ที่หมายเลข 089-424-3360
  • Facebook : ชุมพล แนวจำปา

chumphon 03

 chumphon 04

7 - 10 ธันวาคม 2559 วิจัยเรื่อง "การจัดการน้ำโดยภูมิปัญญาของชาวนาบริเวณลุ่มน้ำโขงตอนล่าง"
Trip นี้ ณ สะหวันนะเขด นักวิจัยไทยสองคน ญี่ปุ่นสองคน

redline

backled1

 

preecha pintong header

ประวัติการศึกษา

preecha 03
  • เกิดเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2457 ณ บ้านโพนทอง หมู่ที่ 6 ตำบลบ้านไทย อำเภอเขื่องใน จังหวัดอุบลราชธานี
  • เป็นบุตรของนายตา และนางคำ พิณทอง มีพี่น้องทั้งหมด 9 คน
  • เริ่มเรียนระดับประถมศึกษาที่โรงเรียนบ้านโพนทอง การเรียนดีมากแต่ฐานะยากจนจึงบวชเรียน
  • เป็นสามเณรที่วัดหอไตร อำเภอเขื่องใน ได้เล่าเรียนการอ่านอักษรโบราณ ทั้งตัวไทยเดิม ตัวลาว และตัวไทยน้อยอย่างแตกฉาน
  • พ.ศ. 2473-2475 สอบได้นักธรรมตรี นักธรรมโท นักธรรมเอก ในขณะที่ยังเป็นสามเณร
  • พ.ศ. 2480 เมื่อย้ายมาจำพรรษาที่วัดป่าใหญ่ (มหาวนาราม) สอบได้เปรียญสามประโยค และได้รับแต่งตั้งให้เป็นครูสอนธรรม
  • พ.ศ. 2484 ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดกลาง
  • พ.ศ. 2495 ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นศึกษาจังหวัดอุบลราชธานี ทำหน้าที่เกี่ยวกับการศึกษาของพระภิกษุสามเณร เช่น การเรียนนักธรรม เรียนบาลี
  • พ.ศ. 2499 สอบได้เปรียญเก้าประโยค ซึ่งถือว่าเป็นเปรียญสูงสุดของฝ่ายสงฆ์ ได้รับการยกย่องจากทุกสารทิศในวงการสงฆ์ เพราะเป็นพระชนบทที่ไม่ได้ไปร่ำเรียนในสำนักกรุงเทพฯ แต่สอบได้ สมณศักดิ์ครั้งสุดท้ายคือ เจ้าคุณพระศรีธรรมโสภณ เจ้าของนามปากกา "ปริญญาโณ ภิกขุ"
  • พ.ศ. 2505 ลาสิกขาบท

preecha

การทำงาน

  • หลังจากลาสิกขาบทแล้ว ได้ออกมาประกอบอาชีพส่วนตัวโดยตั้ง "โรงพิมพ์ศิริธรรม" ด้วยเหตุที่มีใจรักในวัฒนธรรมอีสาน วรรณคดีอีสาน ต้องการเผยแพร่ให้ผู้อื่นได้อ่านได้ศึกษา
  • ด้วยความเชี่ยวชาญในศาสตร์หลายสาขา โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวข้องกับชาวอีสาน จึงได้แต่งหนังสือมากมายออกมาเผยแพร่  ผ่านทางโรงพิมพ์และสำนักพิมพ์ของตนเอง เช่น
    • ประเพณีไทยโบราณอีสาน
    • ภาษิตโบราณอีสาน
    • มนต์โบราณอีสาน เล่ม 1 เล่ม 2
    • รวมวรรณคดีอีสาน เล่ม 1 เล่ม 2
    • ขูลู-นางอั้ว
    • ผาแดง-นางไอ่
    • เวสสันดรคำโคลง
    • สังข์ศิลป์ชัย
    • สวดมนต์แปล
    • กาพย์ปู่สอนหลาน - หลานสอนปู่
    • สิริจันโทวาทยอดคำสอน
    • สวดมนต์เจ็ดตำนาน
    • นกจอกน้อย
    • ท้าวก่ำกาดำ
    • ไขภาษิตโบราณอีสาน
    • ท้าวฮุ่ง-หรือเจือง
    • สารานุกรม อีสาน-ไทย-อังกฤษ
  • พ.ศ. 2480 - 2494 เป็นครูสอนนักธรรมบาลี ประจำสำนักเรียนวัดมณีวนาราม วัดสุปัฏนารามและวัดกลางอุบลราชธานี
  • พ.ศ. 2490 ได้เป็นประธานขออนุญาตตั้งโรงเรียนมัธยมขึ้นที่ วัดมณีวนาราม ให้ชื่อโรงเรียนว่า โรงเรียนอุบลวิทยากร
  • พ.ศ. 2499 ได้ทำถนนกว้าง 6 เมตร ยาว 9 กิโลเมตรจาก บ้านโพนทองถึงบ้านกอก
  • พ.ศ. 2500 ได้พัฒนาภายในบ้านโพนทอง โดยแบ่งที่ดินให้ครัวเรือนละ 200 ตารางเมตร มีครอบครัว 200 เศษ
  • พ.ศ. 2501 ได้สร้างโรงเรียนนักธรรมบาลีและโรงเรียนมัธยมขึ้น 2 หลัง ด้วยเครื่องไม้จริง หลังคามุงสังกะสี กว้าง 8 เมตร ยาว 32 เมตร
  • พ.ศ. 2506 ได้สร้างสถานีอนามัยชั้นสองขึ้น 1 หลัง ที่บ้านโพนทอง

preecha 00 
รับพระราชทานปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาภาษาไทย มหาวิทยาลัยรามคำแหง 2528

คุณพ่อปรีชา พิณทอง ถือเป็น "คนสำคัญของแผ่นดินอีสาน" เป็นผู้รวบรวบ ค้นคว้า ปริวรรต วรรณกรรม ประเพณี พิธีกรรม รวมถึงประวัติศาสตร์ท้องถิ่น ของอีสานเพื่อเป็นฐานข้อมูลทางวัฒนธรรมสำหรับผู้สนใจศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น ให้สามารถนำมาศึกษาได้อย่างกว้างขวาง โดยมีผลงานที่เป็นประจักษ์ และ เป็นต้นแบบให้ลูกหลานได้ใช้สืบค้น คือ หนังสือประเพณีโบราณไทยอีสาน หนังสือภาษิต(ผญา) โบราณอีสาน หนังสือสารานุกรมภาษาอีสาน-ไทย-อังกฤษ และอื่นๆ อีกกว่า 30 เล่ม

ท่านมักจะปรารภกับผู้ที่ท่านสนทนาด้วยเสมอมาว่า คนอีสานขาดความรู้ความเข้าใจของดีอีสาน ชาวอีสานไม่ได้ศึกษาให้เข้าใจตนเอง แต่ไปศึกษาเรื่องอื่นๆ ที่ห่างไกลตัวเอง คนที่ไม่เข้าใจตนเองแล้วจะไปเข้าใจคนอื่นได้อย่างไร ท่านจึงเป็นผู้นำในการศึกษาค้นคว้าวรรณคดีลุ่มน้ำโขง ด้วยการศึกษาจากคัมภีร์ใบลาน หนังสือก้อมที่มีอยู่ในวัดต่างๆ ซึ่งกำลังจะสูญหายไป ท่านมักปรารภอยู่เสมอด้วยความมุ่งมั่นว่า ท่านกำลังทำความดีที่คนอื่นเขาไม่ค่อยเห็นว่าเป็นความดี ซึ่งทำให้ท่านดูเหมือนว่าอยู่โดดเดี่ยวเดียวดาย ขาดการสนับสนุนจากหน่วยงานและสังคมภายนอก เรียกได้ว่าทำด้วยใจรักอย่างแท้จริง และในที่สุดความดีที่ท่านทำก็ได้ปรากฏผล มีคนเห็นถึงความดีนั่น

preecha 05
คุณพ่อปรีชา พิณทอง กับ ดร.เสรี พงศ์พิศ

ชีวิตและผลงานของท่าน ดร.ปรีชา พิณทอง ทั้งเมื่ออยู่ในเพศบรรพชิตและฆราวาส มีมากมายแทบไม่น่าเชื่อว่า คนธรรมดาที่ด้อยโอกาสคนหนึ่งจะสามารถทำได้ ท่านได้เขียนไว้ในเรื่องเล่าของท่านเองตอนหนึ่งความว่า “…ข้าพเจ้าเรียนมหาวิทยาลัยโลกจาก ไฮ่นา สาโท ฮั้วสวน ลวนปิ่น ผักนาง อางหญ้า แคบแค แจฮั้ว ดินดอน ขอนไม้ นกหนู ปูปีก กว่าจะได้สิ่งเหล่านี้มารวมกันเป็นกอบเป็นกำก็ต้องใช้เวลานานพอสมควร…” แสดงให้เห็นว่า ท่าน ดร.ปรีชา พิณทอง ได้แสดงความเป็นปราชญ์แท้แห่งเมืองนักปราชญ์ ด้วยการศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับวรรณกรรม ขนบธรรมเนียม ประเพณีอีสานและพระพุทธศาสนา โดยการ “เหมบเขียน” (นอนคว่ำเขียนหนังสือบนเตียงไม้) อยู่อย่างโดดเดี่ยวบนบ้านอันเป็นที่ทำงานส่วนตัว และจัดพิมพ์เป็นหนังสือออกเผยแพร่เป็นอาชีพเลี้ยงครอบครัว

ด้วยผลงานการศึกษาค้นคว้าของท่านนับสิบๆ เล่ม ที่เผยแพร่ไปอย่างกว้างขวาง จนอาจเรียกได้ว่า ไม่มีนักศึกษาเกี่ยวกับวรรณกรรมและประเพณีวัฒนธรรมอีสานคนใด ไม่ได้อ้างอิงงานของท่าน เพียงเห็นหนังสือ สารานุกรมภาษาอีสาน-ไทย-อังกฤษ ความหนา 1,075 หน้า เล่มเดียวก็เป็นที่น่าอัศจรรย์ในความวิริยะอุตสาหะ ใส่ใจ ทุ่มเท อุทิศชีวิตวิญญาณ เพื่องานการศึกษาค้นคว้าตามปราชญ์วิถีที่หาได้ยากยิ่ง ท่านเล่าไว้ในประวัติของท่านเองว่า “…ข้าพเจ้ามีลูกศิษย์เป็นดอกเตอร์หลายคน แต่ศิษย์เหล่านั้นข้าพเจ้าไม่ได้อบรม สั่งสอนเขาเลย เขาเป็นศิษย์โดยเอาความรู้จากหนังสือที่ข้าพเจ้าได้แต่ง ไปทำวิทยานิพนธ์ สาหรับข้าพเจ้าก็ได้ปริญญาเอกเหมือนลูกศิษย์ ทั้งนี้จะเป็นเพราะข้าพเจ้าไม่มีสถาบันชั้นสูงรับรอง…”

siritham offset

โดยสถานภาพเมื่อครองเพศฆราวาส ท่านก็มีครอบครัวที่สงบและเป็นสุขกับศรีภรรยาคือ คุณแม่คำวงศ์ พิณทอง (สกุลเดิม เดชพันธ์) กับบุตรชายที่ดีและเก่งคนพี่ชื่อ ปริญญา พิณทอง คนน้องชื่อ ปรัชญา พิณทอง ประสบความสำเร็จตามอัตภาพและพอเพียง ในการบริหารจัดการโรงพิมพ์ศิริธรรม และพัฒนามาเป็น โรงพิมพ์ศิริธรรมออฟเซ็ท ที่กำลังเจริญเติบโตในรุ่นลูก ความสำเร็จของพ่อใหญ่ ดร.ปรีชา พิณทอง จึงเป็นความสำเร็จทั้งวิถีโลก วิถีธรรม และวิถีปราชญ์แห่งเมืองนักปราชญ์ที่น่าภาคภูมิใจ เป็นความดี ความงาม ความสุข อันบริสุทธิ์ ก่อให้เกิดพลังบันดาลใจ เป็นแบบอย่างอันงดงามแก่ลูกหลานชาวอุบลราชธานีและคนทั่วไป

เกียรติประวัติ

  • พ.ศ. 2528 เป็นผู้มีผลงานดีเด่นทางด้านวัฒนธรรม (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) โดยการนาเสนอของ ศูนย์วัฒนธรรม วิทยาลัยครูอุบลราชธานี (มหาวิทยาลัยราชภัฎอุบลราชธานี ปัจจุบัน)
  • พ.ศ. 2528 มหาวิทยาลัยรามคำแหง ได้มอบปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาภาษาไทย เนื่องจากเป็นผู้ทรงคุณวุฒิที่มีผลงานทางวิชาการแสดงเอกลักษณ์ไทย มีความรู้ความสามารถดีเด่นหาได้ยาก โดยเฉพาะงานบุกเบิกวรรณกรรมท้องถิ่นอีสาน ผลงานที่สำคัญคือ การอ่านอักษรไทยอีสานโบราณทั้งอักษรตัวธรรมและอักษรไทยน้อย แล้วถ่ายทอดเป็นอักษรไทยปัจจุบัน และเรียบเรียงตำราวิชาการทั้งคดีโลกและคดีธรรม
  • พ.ศ. 2532 เป็นบุคคลดีเด่นทางด้านวัฒนธรรม ของสำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ
  • พ.ศ. 2537 ได้รับเกียรติคุณเป็น "ผู้อนุรักษ์ไทยดีเด่น" ในวันอนุรักษ์มรดกไทย วันที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2537

ที่อยู่

  • โรงพิมพ์ศิริธรรมออฟเซ็ท เลขที่ 429 หมู่12 ถนนอุบล-ตระการ บ้านโนนหงษ์ทอง ตำบลไร่น้อย อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี 34000
  • โทรศัพท์ 045 317 491

preecha 06

ดร.ปรีชา พิณทอง ถึงแก่กรรมเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2546 สิริอายุได้ 89 ปี ประวัติชีวิตของพ่อใหญ่ ดร.ปรีชา พิณทอง จึงเป็นประทีปธรรมแห่งอีสาน ตำนานปราชญ์เมืองอุบลราชธานี โดยแท้

redline

backled1

mp3

kaotip 01ข้าวทิพย์ ธิดาดิน

ข้าวทิพย์ ธิดาดิน นักร้องเพลงลูกทุ่งหญิง สังกัดค่าย แกรมมี่โกลด์ ในเครือ จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ หนึ่งในนักร้องกลุ่ม น้องใหม่ไต่ดาว โครงการ 1 รวมดาวที่ราบสูง เป็นนักร้องลูกทุ่งที่มีชื่อเสียงโด่งดังในปัจจุบันจากผลงานเพลง สาว ม.ปลายยังอายฮัก, อ้ายอย่าเว้าเล่น, สาวหมอลำส่ำน้อย, อยู่กับเขาเหงาด้วยหรือ, OK. บ่อ้าย, ไม่ได้หมดรักแต่หัวใจหมดแรง ฯลฯ

ข้าวทิพย์ ธิดาดิน มีชื่อและนามสกุลจริงว่า ธิดาดิน หินอ่อน เกิดวันที่ 16 สิงหาคม 2532 ที่ จังหวัดอำนาจเจริญ เป็นบุตรของวินัย หินอ่อน และนางลำเพา หินอ่อน จบชั้นประถมศึกษาจากโรงเรียนบ้านสมสะอาดเนินกุง ชั้นระดับมัธยมจาก โรงเรียนนาเวียงจุลดิศวิทยา ตำบลนาเวียง อำเภอเสนางคนิคม จังหวัดอำนาจเจริญ เข้าวงการมาด้วยการประกวด "น้องใหม่ไต่ดาว โครงการ 1" (รวมดาวที่ราบสูง) ได้ออกอัลบั้มแล้วคือ "น้องใหม่ไต่ดาว โครงการ 1" (รวมดาวที่ราบสูง)  สาวหมอลำส่ำน้อย และ อัลบั้ม OK. บ่อ้าย

ข้าวทิพย์ ธิดาดิน ชื่นชอบและหลงใหลในเสน่ห์ของผ้าไทย จึงเริ่มทำธุรกิจเล็กๆ เกี่ยวกับผ้าไหมและผ้าฝ้ายเป็นอาชีพเสริมอีกด้วย

การศึกษา

  • ระดับประถมศึกษา โรงเรียนบ้านสมสะอาดเนินกุง อำเภอเสนานิคม จังหวัดอำนาจเจริญ
  • ระดับมัธยมศึกษา โรงเรียนนาเวียงจุลดิศวิทยา ตำบลนาเวียง อำเภอเสนานิคม จังหวัดอำนาจเจริญ
  • ระดับปริญญาตรี คณะบริหารธุรกิจ สาขาการตลาด มหาวิทยาลัยรัตนบัณฑิต

เส้นทางสู่การเป็นนักร้อง

ข้าวทิพย์ ธิดาดิน ชอบร้องเพลงมาตั้งแต่เด็กๆ อาจจะสืบสานมาทางสายเลือดก็ได้ เพราะพ่อเป็นหมอลำชื่อว่า วินัยน้อย เพชรเสนาง มีนิสัยร่าเริงมาตั้งแต่เด็กแต่ก็ขี้อายเหมือนกัน ตั้งแต่เด็กข้าวทิพย์ชอบร้องเพลงที่ทุ่งนาอยู่บ่อยๆ หลายครั้งที่ได้ตังค์ค่าขนมจากการร้องเพลงที่ทุ่งนา วันละบาท สองบาท เพราะญาติ จ้างให้ร้องเพลงให้ฟังตอนเขาเกี่ยวข้าวอยู่ และตอนอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 คุณครูได้ประกาศว่า "จะมีการประกวดแข่งขันร้องเพลง จะมีการคัดเลือกตัวแทนไปประกวดร้องเพลงที่ตำบล" ข้าวทิพย์จึงได้สมัครลองดู และได้รับการคัดเลือกเป็นหนึ่งในนั้น ครูให้ร้องเพลงพระราชนิพนธ์แข่งกันคือ "เพลงชะตาชีวิต" เป็นเพลงบังคับที่เขากำหนดมาแล้ว ข้าวทิพย์ก็ได้คัดเลือกให้เป็นตัวแทนของโรงเรียนให้ไปแข่งที่ตำบล และต่อมาก็ได้เป็นตัวแทนของตำบลไปแข่งในระดับอำเภอต่อไป

ซึ่งในตอนเรียนชั้นประถมศีกษานั้นก็ได้มีอาจารย์ที่ช่วยดูแล และสนับสนุนอยู่หลายท่านเหมือนกัน และแนะนำฝึกสอนวิธีการการร้องเพลง ไม่ว่าจะเป็น คุณครูนิดษา สอนโกสา คุณครูวงวาด มาฆะเซนต์ และ ผู้อำนวยการเกียรติศักดิ์ นนทพจน์ และครูอาจารย์อีกหลายท่าน เมื่อได้มาศึกษาต่อชั้นมัธยมศึกษาที่ โรงเรียน นาเวียงจุลดิศวิทยา เมื่อตอนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ผู้อำนวยการบุญช่วย แสนจันทร์ (ผู้อำนวยการ รร. นาเวียงจุลดิศวิทยา) ทราบข่าวจาก ผู้อำนวยการปรีชา บันฑิต (ซึ่งเป็นเพื่อน) ว่า ครูสลา คุณวุฒิ กำลังหานักร้องที่ร้องเพลงลูกทุ่งและหมอลำได้ ผู้อำนวยการบุญช่วย จึงได้บันทึกเทปส่งเสียงร้องและรูปไปให้ครูสลา ครูสลา และถูกเรียกไปทดสอบการร้องการลำ และผ่านการทดสอบด้วย

kaotip 04

ครูสลา จึงได้แต่งพลงให้ขับร้องสองเพลง คือเพลง สาว ม.ปลายยังอายฮัก และ ม.หก เทอมสุดท้าย ซึ่งอยู่ในอัลบั้ม "น้องใหม่ไต่ดาวโครงการหนึ่ง" (รวมดาวที่ราบสูง) ซึ่งได้รับการดูแลโดย บริษัท GMM Grammy ดญ. ธิดาดิน หินอ่อน จึงได้มาเป็น ข้าวทิพย์ ธิดาดิน น้องใหม่ในวงการในวันนี้ ขอบคุณครู อาจารย์ทุกท่าน ที่ให้ความเมตตาและการดูและเป็นอย่างดีมาโดยตลอด ขอบคุณคุณพ่อคุณแม่ พี่สาวที่น่ารัก เพื่อนๆ และทุกกำลังใจ ที่มีให้กับข้าวทิพย์ ข้าวทิพย์คงจะไม่มีโอกาสเดินตามฝันตัวเองได้ ถ้าหากขาดการกำลังใจที่สำคัญจากทุกท่าน ขอบคุณจากใจคะ

สาวหมอลำส่ำน้อย - ข้าวทิพย์ ธิดาดิน

เป็นนักร้องลูกทุ่งสาว ที่หลายคนชื่นชอบ กับหมอลำสาว ข้าวทิพย์ ธิดาดิน ที่ตอนนี้ใช้ชีวิตแบบพอเพียงติดดินเป็นอย่างมาก รอยยิ้มอันแสนน่ารักและเสียงที่กล่อมคนฟังได้เป็นอย่างดี เราจะได้เห็นเมื่อยามว่างจากการแสดงและร้องเพลง เธอก็กลับบ้านเกิดลงทุ่งนาช่วยพ่อแม่ทำนาเหมือนในอดีต อยู่บ้านใครจะสุขใจเท่าบ้านเรา เธอกล่าวอย่างนี้เสมอ

kaotip 06

kaotip 07

kaotip 03

ผลงานเพลง

มีผลงานมาจากน้องใหม่ไต่ดาว มาเป็นสาวหมอลำร้องเดี่ยวเต็มอัลบั้ม กับลีลา หมอลำแดนซ์ หมอลำส่ำน้อย คำร้องทำนอง สลา คุณวุฒิ และอัลบั้ม OK. บ่อ้าย และอัลบั้มพิเศษร่วมกับศิลปินคนอื่นๆ ในค่ายอีกหลายอัลบั้ม ผลงานเพลงเด่นที่สร้างชื่อ สาว ม.ปลายยังอายฮัก, อ้ายอย่าเว้าเล่น, สาวหมอลำส่ำน้อย, อยู่กับเขาเหงาด้วยหรือ, OK. บ่อ้าย, ไม่ได้หมดรักแต่หัวใจหมดแรง ฯลฯ

รางวัลที่ได้รับ

  • 2559 - รางวัลเสาอโศกผู้นำศีลธรรม รับประทานจากพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ

 

kaotip 02

สาว ม.ปลาย ยังอายฮัก - ข้าวทิพย์ ธิดาดิน

ล่าสุดเจ้าตัวออกมาเปิดเผยว่า ตั้งแต่ต้นปี 2562 ได้แสดงละครไปแล้ว 3 เรื่อง ได้แก่ สาวน้อยร้อยล้านวิว, ผู้บ่าวอินดี้ ยาหยีอินเตอร์, ดอกคูนเสียงแคน และล่าสุดเพิ่งเปิดละครใหม่ทางช่อง ONE คือเรื่อง “มงกุฏดอกหญ้า” แสดงกับพี่สาว พี่ชายร่วมค่าย พี่ต่าย อรทัย และพี่ไผ่ พงศธร โดยข้าวทิพย์จับคู่กับ “ตรี ชัยณรงค์” และเมื่อ 23 ก.ค. ที่ผ่านมา เจ้าตัวก็เพิ่งต่อสัญญาศิลปินกับจีเอ็มเอ็มแกรมมี่ อีก 6 ปี

kaotip 09

ข้าวทิพย์ ธิดาดิน เผยว่า “ปีนี้เป็นปีที่ดีของข้าวทิพย์ ต้องขอบคุณไปยัง ครูสลา คุณวุฒิ ผู้ดูแลข้าวทิพย์มาตั้งแต่วันแรก ขอบคุณพี่ตี่ กริช ทอมมัส ที่เมตตาข้าวทิพย์ ขอบคุณแฟนเพลง แฟนละคร ที่ให้กำลังใจข้าวทิพย์มาเสมอ เหนื่อยนะคะแต่มีความสุข ก็ไม่เคยคิดเหมือนกันว่าจะได้มาแสดงละคร ก็คงเริ่มจากข้าวทิพย์ ไปแคสติ้งบท “บัวเขียว” จากละคร นายฮ้อยทมิฬ เมื่อ 2 ปีที่แล้ว แล้วก็ได้แสดงบทนั้น ตั้งแต่วันนั้นมาคนก็เรียก บัวเขียวๆ มาตลอด จนเมื่อช่วงต้นปี ก็มีละคร เข้า 3 เรื่อง ก็ดีใจมากๆ ยังไงข้าวทิพย์ก็ยังเป็นนักร้องอยู่นะคะ ฝากซิงเกิ้ลล่าสุด “บ่ได้จากไปนำอ้าย” ชมได้ทางช่องยูทูป Grammy Gold Official ด้วยนะคะ ส่วนเรื่องการต่อสัญญา ก็ต่อเรียบร้อยแล้ว ไม่ไปไหนหรอกค่ะ รักแกรมมี่ โกลด์ที่สุด ต่ออีก 6 ปีเลย ฝากเป็นกำลังใจให้ข้าวทิพย์ด้วยนะคะ”

บ่ได้จากไปนำอ้าย - ข้าวทิพย์ ธิดาดิน

แม้จะมีงานละคร แต่ก็ยังไม่หยุดฝันด้านการร้องเพลง เพราะยังมีผลงานเพลงออกมาต่อเนื่อง อย่างเพลงล่าสุด หน้าที่ไผ หน้าที่มัน Feat. กับ กระต่าย พรรณนิภา นักร้องอินดี้มาแรง ยอดวิวทะลุ 16 ล้านวิวไปแล้ว ติดตามความเคลื่อนไหวของเธอได้จาก Facebook : ข้าวทิพย์ ธิดาดิน

สาวโรงงานน้ำตา - ข้าวทิพย์ ธิดาดิน

redline

backled1

mp3

monkan 01มนต์แคน แก่นคูน

มนต์แคน แก่นคูน นักร้องเพลงลูกทุ่งหมอลำชายชาวไทย สังกัดค่าย แกรมมี่โกลด์ ในเครือ จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ เจ้าของฉายา "บ่าวเสียงสุดสะแนน" เป็นนักร้องลูกทุ่งที่มีชื่อเสียงโด่งดังในปัจจุบัน จากผลงานเพลง ยังคอยที่ซอยเดิม, ยามท้อขอโทรหา, สร้างฝันด้วยกันบ่, อ้ายฮักเจ้าเด้อ, โรงงานปิดคิดฮอดน้อง, ยังฮักคือเก่า, ชีวิตเพื่อชาติ หัวใจเพื่อเธอ, ฝันอีกครึ่งต้องพึ่งเธอ, ตรงนั้นคือหน้าที่ ตรงนี้คือหัวใจ, อ้ายบ่แม่นเขา, ให้เขาไปหรือให้อ้ายเจ็บ ฯลฯ

มนต์แคน แก่นคูน มีชื่อจริง สิบเอก กิตติคุน บุญค้ำจุน (ชื่อเดิม : เพชรพร บุญค้ำจุน) บ้านเกิดอยู่ที่บ้านม่วงกาซัง ตำบลสวาท อำเภอเลิงนกทา จังหวัดยโสธร เป็นบุตรของคุณพ่อทองคำ บุญค้ำจุน และคุณแม่สมทาน บุญค้ำจุน มีพี่น้อง 4 คน เป็นคนที่ 3 ของครอบครัว มีพี่สาว 2 คน น้องสาว 1 คน

ในวัยเด็กมนต์แคน ซึ่งเป็นลูกชาวนาโดยกำเนิด ที่ไม่เคยคิดว่าวันหนึ่งจะได้มาเป็นนักร้องมีชื่อเสียง ได้ซึมซับการร้องการรำจาก นายทองคำ บุญค้ำจุน ผู้เป็นพ่อที่เป็นหมอลำกลอนคู่ และมีทุ่งนาเป็นห้องเรียนรู้วัฒนธรรมอีสานแขนงนี้

monkan 02

เคยทำเพลงอัลบั้มแรกกับเพลง เสียศูนย์เมื่อบุญผะเวช คู่กับ พรศักดิ์ ส่องแสง ตอนนั้นใช้ชื่อ พรเพชร บุญค้ำจุณ ชื่อจริง เพชรพร สลับชื่อในการทำอัลบั้ม จากนั้นมาทำเพลงคู่กับ พรศักดิ์ ส่องแสง หนทางเข้าวงการของมนต์แคน เริ่มแรกเข้าหาอาจารย์ สวนสวรรค์ พรทิพย์ อาจารย์สอนวิชาภาษาอังกฤษ ประจำโรงเรียนบ้านม่วงกาชัง ได้ฝากฝังกับ นายวิฑูรย์ วงศ์ไกร อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดยโสธร สมัยนั้นไปหาเสียงอยู่โรงเรียน บ้านม่วงกาชัง แต่ 1 อาทิตย์ให้หลัง ส.ส.วิฑูรย์ มารับตัวจริงๆ มนต์แคนเลยได้ไปกับวงดนตรีของ ส.ส.วิฑูรย์ วงศ์ไกร ซึ่งตอนนั้นยังไม่เกณฑ์ทหาร ก็ร้องไปเรื่อยๆ

จน ส.ส. วิฑูรย์ วงศ์ไกร พาไปลองเทสเสียงที่ บริษัท เสียงสยาม ปรากฏว่าผ่านได้ทำอัลบั้มกับบริษัท เสียงสยาม เป็นชุดแรก เพลงดังตอนนั้นคือ เสียศูนย์เมื่อบุญผะเวช แต่ก็ผ่านเกณฑ์ทำชุดสองจนได้ ก่อนจะหมดสัญญามาทำอัลบั้มใหม่กับ RS Promotion โดยใช้ชื่อว่า มานพ วงศ์เพชร ได้สองชุด แต่ต้องมาเกณฑ์ทหารที่บ้านเกิด อำเภอเลิงนกทา จังหวัดยโสธร ในปี พ.ศ. 2537 และไปรับใช้ชาติสองปี ที่ค่ายบดินทรเดชา ก่อนทิ้งหายอัลบั้มไปหลายปี หลังจากพ้นจากทหารก็สอบนายสิบต่อได้เป็นทหาร และก็ยังติดต่อกับ ครูสลา คุณวุฒิ โดยตลอด จนสอบผ่านการเป็นนักร้องของ แกรมมี่ โกลด์ และได้มีผลงานชุดแรกคือ ชุดที่ 1 ยังคอยที่ซอยเดิม ปี พ.ศ. 2548

monkan 03

มนต์แคน แก่นคูน ปัจจุบันมีผลงานอัลบั้มสังกัดค่าย แกรมมี่โกลด์ ในเครือ จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ และรับราชการทหารประจำอยู่ในสังกัดของกรมการขนส่งทหารบก สะพานแดง บางซื่อ กทม. ตำแหน่งเสมียน และยังได้รับมอบหมายจากผู้บังคับบัญชาให้ทำหน้าที่ในส่วนของการดูแลกิจกรรมสันทนาการ

monkan 04ปี พ.ศ. 2534-พ.ศ. 2536 สังกัดค่าย เสียงสยาม จำกัด ใช้ชื่อ "พรเพชร บุญค้ำจุน" ออกอัลบั้มเดี่ยว 2 ชุด และอัลบั้มพิเศษ 1 ชุด อัดแผ่นเสียงคู่กับ พรศักดิ์ ส่องแสง ชุด "เสียศูนย์เมื่อบุญผะเวช"

  • อัลบั้มชุดที่ 1 ลำเพลิน ลำร็อค
  • อัลบั้มชุดที่ 2 ลำเพลิน ลำร็อค 2

ปี พ.ศ. 2537-พ.ศ. 2539 สังกัดค่าย อาร์เอส โปรโมชั่น จำกัด (มหาชน) ในชื่อ "มานพ วงศ์เพชร" ออกอัลบั้ม 2 ชุด

  • อัลบั้ม เข็มพรแกล้งพี่
  • อัลบั้ม ท็อปฮิต ลูกทุ่งมาตราฐาน 1

ปี พ.ศ. 2548 จนถึงปัจจุบัน มาสังกัดค่าย แกรมมี่โกลด์ ออกอัลบั้มมาแล้ว 7 อัลบั้ม ไม่นับรวมอัลบั้มพิเศษต่างๆ

รางวัล

  • รางวัล คนดีศรียโสธร มอบโดย ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร
  • รางวัล Siamdara Stars Awards 2013 สาขา นักร้องลูกทุ่งชายยอดนิยม จากเพลง อ้ายบ่แม่นเขา ในอัลบั้มชุดที่ 6 ตรงนั้นคือหน้าที่ ตรงนี้คือหัวใจ
  • รางวัล เพชรในเพลง สาขา การขับร้องเพลงดีเด่นด้านภาษาไทย ประเภท ชมเชยผู้ขับร้องเพลงไทยลูกทุ่งชาย จากเพลง ตรงนั้นคือหน้าที่ ตรงนี้คือหัวใจ ในอัลบั้มชุดที่ 6 ตรงนั้นคือหน้าที่ ตรงนี้คือหัวใจ เนื่องในวันภาษาไทยแห่งชาติ ประจำปี 2556
  • รางวัล คมชัดลึก อวอร์ดส ครั้งที่ 11 ประจำปี 2556 สาขา เพลงอมตะรังสรรค์ชายยอดเยี่ยม จากเพลง นักรบห่วงแฟน ในอัลบั้มพิเศษ ตามฮอยอีสาน ชุดที่ 3
  • รางวัล คมชัดลึก อวอร์ดส ครั้งที่ 12 ประจำปี 2557 สาขา นักร้องลูกทุ่งชายยอดเยี่ยม จากเพลง ให้เขาไปหรือให้อ้ายเจ็บ ในอัลบั้มพิเศษ เจ็บบอกให้ไป หัวใจบอกให้กอด

monkan 05

เพลงดังสร้างชื่อมีหลายเพลง อาทิ ยามท้อขอโทรมา, แฟนเขาผู้สาวอ้าย, ฝันอีกครึ่งต้องพึ่งเธอ, ตรงนั้นคือหน้าที่ ตรงนี้คือหัวใจ, อ้ายบ่แม่นเขา, เขาขอไลน์ อ้ายขอลา, คำว่าฮักกัน มันเหี่ยถิ่มไส เป็นต้น

คำว่าฮักกันมันเหี่ยถิ่มไส - มนต์แคน แก่นคูณ

สัปดาห์แรกของปีใหม่ 2564 ที่ผ่านมา ทางเว็บไซต์ Chart Masters ได้ออกมาเปิดเผยว่า มนต์แคน แก่นคูน (กิตติคุณ บุญค้ำจุน) นักร้องเจ้าของฉายา บ่าวเสียงสุดสะแนน คือ ศิลปินที่มียอดวิวสูงสุดใน YouTube ประเทศไทย (YouTube’s Most Streamed Artists of 2020) โดยคว้ายอดผู้เข้าชมไปถึง 976 ล้านวิว ชนะศิลปินเกิร์ลกรุ๊ประดับโลกอย่าง “แบล็กพิงก์” ไปได้อย่างขาดลอย ซึ่งแต่ละเพลงคือมียอดวิว 100 ล้านวิวขึ้นไป อาทิ “คำว่าว่าฮักกัน มันเฮี่ยถิ่มไส” ก็เป็นเพลงที่มียอดวิวเกือบ 400 ล้านวิวเช่นกัน และยังเป็นเจ้าของสถิติ เพลงเกิน 100 ล้านวิว ถึง 9 เพลง ซึ่งสร้างความดีใจให้กับหลายๆ คน และในขณะเดียวกันก็ทำให้หลายคนอยากรู้จักเขามากขึ้น ขอนำ 6 เรื่องราวพิเศษของเขามาให้ทุกคนได้ชม

1. บทบาทการรับใช้ชาติในฐานะทหาร

นอกจากการเป็นศิลปินแล้ว มนต์แคนก็มีโอกาสรับใช้ชาติในฐานะทหารเกณฑ์ อำเภอเลิงนกทา จังหวัดยโสธร ในปี พ.ศ. 2537 ซึ่งหลังจากนั้นเขาได้เข้าเป็นนักเรียนนายสิบ และเข้ารับราชการกรมการขนส่งทหารบก สะพานแดง บางซื่อ กทม. ติดยศ สิบเอกกิตติคุณ บุญค้ำจุน โดยปัจจุบันนี้มนต์แคนก็ยังมีโอกาสทำกิจกรรมสันทนาการให้กับทหาร ซึ่งเมื่อปี พ.ศ. 2562 เขาได้เข้าร่วมงานงาน พบปะ และให้กำลังใจทหารใหม่ 1/62 มณฑลทหารบกที่ 27 ด้วย

เปิดใจ มนต์แคน ครั้งที่เคยเป็นทหารเกณฑ์ (งานพบปะ และให้กำลังใจทหารใหม่ 1/62 มทบ.27)

2. วันวานที่ห่างจากการปล่อยอัลบั้มไปถึง 9 ปีเต็ม

เริ่มแรกนั้น มนต์แคน แก่นคูน เคยได้ทำงานกับศิลปินรุ่นใหญ่อย่าง พรศักดิ์ ส่องแสง ก่อนจะเข้ามาอยู่ค่ายเสียงสยาม เมื่อ ส.ส.วิฑูรย์ วงศ์ไกร จาก จังหวัดยโสธร ซึ่งเป็นสมาชิกสังกัดพรรคกิจสังคม ณ เวลานั้น ได้พาเขาไปเทสต์เสียงกับค่าย เสียงสยาม จนมีอัลบั้มชุด ลำเพลิน ลำร็อค ชุด 1 และ 2 ออกมา ก่อนจะมีอัลบั้มชุด เข็มพรแกล้งพี่ และ อัลบั้ม ท็อปฮิต ลูกทุ่งมาตรฐาน 1 ที่เขาได้ทำกับค่าย RS ในนามว่า มานพ วงศ์เพชร และหลังจากนั้นเขาก็หยุดจากการทำเพลงเพื่อทำหน้ารับใช้ชาติ (เป็นทหารเกณฑ์) ก่อนที่จะได้หวนกลับมาทำเพลงกับค่าย Grammy Gold ภายใต้ชื่อ มนต์แคน แก่นคูน ที่ได้แรงบันดาลใจจากเครื่องดนตรีแคน จนมีอัลบั้มชุดใหม่ในปี 2548 ที่ใช้ชื่อว่า ยังคอยที่ซอยเดิม ผ่านการผลักดันของครูเพลงแถวหน้าอย่าง สลา คุณวุฒิ

3. ความสำเร็จระดับร้อยล้านวิว 8 ซิงเกิล

ถึงแม้จะมีช่วงที่ทิ้งวงการไปถึง 9 ปี แต่การกลับมาของมนต์แคนก็ได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยมทั้งเพลงเศร้า, เพลงรัก รวมไปถึงผลงานแนวให้กำลังใจที่แปรเปลี่ยนดนตรี และการใช้ภาษาตามบริบทสังคมแต่ละยุค โดยปัจจุบันเขามีเพลงร้อยล้านวิวถึง 8 เพลงได้แก่ "คำว่าฮักกัน มันเหี่ยถิ่มไส", "คอยน้องที่ช่องเม็ก", "ให้เขารักเธอเหมือนเธอรักเขา", "อ้ายฮักเขาตอนเจ้าบ่ฮัก", "เจ้าตั๋วว่าฮักอ้าย", "วอนหลวงพ่อรวย", "สัญญาน้ำตาแม่" และ "งานแต่งคนจน" ซึ่งเพลง "อ้ายฮักเขาตอนเจ้าบ่ฮัก" ของเขานั้นมียอดวิวระดับร้อยล้านครั้ง ทั้งในเวอร์ชั่น Lyric Video และ มิวสิควิดีโอ ในขณะที่ใน JOOX Music Application นั้น เมื่อปีที่ผ่านมาเขาก็มียอดสตรีมผลงาน 9 ล้าน 9 แสนครั้ง

กลิ่นลาบที่สีลม - มนต์แคน แก่นคูน - ตรี ชัยณรงค์ - เบียร์ พร้อมพงษ์

4. ผลงานฟีทเจอริ่งกับศิลปินฮิปฮอปที่มอบประสบการณ์ใหม่

ตลอดหลายปีในค่าย Grammy Gold มนต์แคน แทบไม่ค่อยได้ร่วมงานฟีทเจอริ่งกับศิลปินอื่นในอัลบั้มเดี่ยวตัวเอง แต่หลังจากที่ปล่อยผลงาน อ้ายฮักเขา ตอนเจ้าบ่ฮัก เขาก็ได้เซอร์ไพรส์แฟนๆ ด้วยการเข้าร่วมโปรเจกต์ 100x100 ของ JOOX Music Application และ GMM Grammy เพื่อร้องเพลง "มานอนนาเด้อ" ร่วมกับ เด็กเลี้ยงควาย (นิวยอร์ก-เทพฤทธิ์ อิ่มสุดสำราญ) ซึ่งปัจจุบันมียอดวิวสูงถึง 76 ล้านวิว (นับยอดวิวถึงวันที่ 6 มกราคม 2564) และมอบประสบการณ์ใหม่ให้กับมนต์แคน และหลังจากนั้นตัวมนต์แคนก็มีโอกาสได้ฟีทเจอริ่งกับ 3 ศิลปินรุ่นใหม่ของ Grammy Gold ใน Digital อัลบั้มชุด ไปรวยเอาดาบหน้า อย่างในซิงเกิล "ยังฮักไผอีกได้บ่" ที่ทำกับ มีนตรา อินทิรา และเพลง "กลิ่นลาบที่สีลม" ที่เขาทำกับ ตรี ชัยณรงค์ และ เบียร์ พร้อมพงษ์

5. กิจการมินิมาร์ทที่แฟนๆ ควรแวะไปเยือนสักครั้ง

ปัจจุบันนี้ศิลปินหลายๆ คนก็ได้ผันตัวมาสร้างธุรกิจส่วนตัว เพื่อเพิ่มความมั่นคงในชีวิตรวมถึงเปิดประสบการณ์ใหม่ไปพร้อมกัน ซึ่ง มนต์แคน แก่นคูน เองก็มีกิจการมินิมาร์ท The Farm Family ที่ตั้งอยู่ใน ตำบลไร่สีสุก อำเภอเสนางคนิคม จังหวัดอำนาจเจริญ ซึ่งนอกจากสินค้าทั่วไปแล้ว ทางร้านยังมีอาหารอีสาน ผักปลอดสารพิษที่ปลูกเอง รวมไปถึงเครื่องดื่มอร่อย และสินค้าของมนต์แคนวางขายด้วย ซึ่งหลายๆ ครั้งมนต์แคนก็แวะเวียนมาปรากฎตัวในฐานะลูกค้าร้าน

monkan 15

6. การไลฟ์คอนเสิร์ตพิเศษที่ช่วงที่เขาห่างไกลแฟนๆ

ถึงแม้จะเป็นศิลปินรุ่นใหญ่ แต่มนต์แคนก็ได้ปรับตัวเข้าโลกโซเชียล ด้วยการจัดซีรีส์คอนเสิร์ตไลฟ์สตรีมมิ่งที่ใช้ชื่อว่า เพลิน Plearn By มนต์แคน แก่นคูน ระหว่างเดือน ตุลาคม 2563 ไปจนถึง ธันวาคม 2564 ซึ่งแฟนๆ สามารถซื้อบัตรรายเดือนเพื่อชมการแสดงได้ โดยคอนเสิร์ตซีรีส์ชุดนี้ได้ทำการจัดไปแล้ว 3 ครั้งและยังคงมีการขายบัตรให้แฟนๆ ที่อยากชมการแสดงของมนต์แคน แต่ยังมีความกังวลเรื่องการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา และการปรับตัวแบบนี้ก็เป็นอีกเหตุผลว่า ทำไมมนต์แคนถึงมีแฟนเพลงใหม่ๆ ในยุคโซเชียลมากขึ้น และยังรักษาแฟนๆ ยุคแรกไว้อย่างเหนียวแน่น

โดยคนใกล้ชิดได้เล่าให้ฟังว่า วิธีการทำเพลงของ “มนต์แคน แก่นคูน” คือปกติถ้าไม่ได้ทำเพลง ก็จะทำนาทำสวนอยู่บ้าน แต่ปกติถ้าไม่ติดโควิดก็จะมีงานเรื่อยๆ ส่วนใหญ่จะเดินสายภาคอีสาน เป็นลูกทุ่ง หมอลำ ว่างจากคอนเสิร์ตก็จะลงไร่ ลงนา ยิ่งช่วงนี้จะลงนาบ่อยมาก เพราะเพิ่งเกี่ยวข้าวเสร็จ กลางคืนจะเดินสายเล่นคอนเสิร์ต กลางวันจะเข้าสวนเข้านา และก็ทำธุรกิจส่วนตัวนิดหน่อย ก็เหมือนเป็นเศรษฐกิจพอเพียง นักร้องลูกทุ่งหมอลำชื่อดังชอบอยู่ไร่อยู่นาและด้วยพื้นเพเป็นคนอีสาน เป็นลูกชาวไร่ชาวนาอยู่แล้ว ก็เริ่มซึมซับ ถูกปลูกผังมาตั้งแต่เล็กๆ และในการทำเพลงก็จะอยู่ที่โปรดิวเซอร์คือครูสลา เป็นคนทำเพลงให้

monkan 16

ส่วนที่หลายคนสงสัยว่าทำไม? ไม่ค่อยได้เห็น “มนต์แคน แก่นคูน” ออกรายการต่างๆ ตามทีวีเลย เพราะด้วยไลฟ์สไตล์ที่เขารู้สึกว่าเขาไม่ค่อยถนัดออกรายการ และที่สำคัญมีปัญหาส่วนตัวนิดหน่อยเกี่ยวกับฟัน เคยฟันแตกแล้ว เลยทำให้ความมั่นใจในการพูดหรือการออกเสียงอาจจะไม่ดีเท่าที่ควร เลยทำให้ไม่ค่อยมั่นใจ จากคนที่ไม่มั่นใจการออกสื่อเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แต่การออกหน้ากล้องก็อาจจะมีออกบ้าง แต่ก็น้อยนิด แต่ก็ยังคงให้ความร่วมมือกับต้นสังกัดอยู่เสมอ และโชว์ส่วนใหญ่ก็จะเป็นวาไรตี้หมอลำเหมือน ต่าย อรทัย หรือไผ่ พงศกร ที่โชว์กันเป็นแบบเต็มวงมีนักดนตรี มีแดนเซอร์พร้อม และบางทีก็ไปเป็นแขกรับเชิญในงานต่างๆ ก็เกือบทุกวัน เผลอๆ มีทั้งเดือนเลย

redline

backled1

isan word tip

isangate net 345x250

ppor blog 345x250

adv 345x200 1

นโยบายความเป็นส่วนตัว Our Policy

ยินดีต้อนรับสู่ประตูอีสานบ้านเฮา เว็บไซต์ของเรา ใช้คุกกี้ (Cookies) เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น อ่านนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy) และนโยบายคุกกี้ (Cookie Policy)