mp3

chalermpol 02เฉลิมพล มาลาคำ

ศิลปินนักร้องลูกทุ่ง หมอลำ นักแต่งเพลง

นักร้อง/นักแต่งเพลงลูกทุ่ง หมอลำ ที่มีผลงานเป็นที่น่าประทับใจอีกคนหนึ่ง ทั้งกลอนลำสำเนียงอีสาน และการประสานด้วยภาษาถิ่นสำเนียงเขมร ทำให้เพลงของเขามีลีลาที่น่าฟังประทับใจไปอีกแบบ

เฉลิมพล มาลาคำ เกิดเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2505  ที่บ้านหนองบัว ตำบลหนองบัว อำเภอท่าตูม จังหวัดสุรินทร์ บิดาชื่อ นายภู มาลาคำ มารดา นางหน่อย มาลาคำ จบการศึกษาขั้นต้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่โรงเรียนอัมปึล ช่วยครอบครัวทำนาในวัยเด็ก แต่มีความสนใจในการเป็นนักร้อง/หมอลำ เข้าร่วมการประกวดแข่งขันในเวทีต่างๆ มากมาย ประสบผลสำเร็จจากการประกวดร้องเพลงที่ สถานีวิทยุแห่งประเทศไทย จังหวัดสุรินทร์ ต่อมาย้ายมาอยู่ที่บ้านโคกสูง ตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก (เดิมขึ้นกับอำเภอกาบเชิง) จังหวัดสุรินทร์

เฉลิมพล มาลาคำ เริ่มเข้าสู่วงการจากการประกวดร้องเพลงของ สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย จังหวัดสุรินทร์ เริ่มบันทึกเสียงเพลงแรก ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2528 จากเพลง "สะอื้นอวยพร" เพลงที่สร้างชื่อเสียงให้มากที่สุดคือเพลง "ตามใจแม่เถิดน้อง" ซึ่งทำให้ดนตรีแนวลูกทุ่งหมอลำได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง ต่อมาได้ย้ายครอบครัวไปลงหลักปักฐานใหม่ที่ หมู่บ้านท่าเจริญ หมู่ที่ 11 ตำบลท่าลาด อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี

เพลงสร้างชื่อ ตามใจแม่เถิดน้อง ของ เฉลิมพล มาลาคำ

และมีเพลงที่เอาเรื่องจริงมาล้อเล่น (ชีวิตความเป็นอยู่ของชาวนาอีสาน ถูกถ่ายทอดในอีกแง่มุมหนึ่ง โดยเฉพาะเรื่องรักๆ ใคร่ๆ ลองฟังกันดู) ไผหม่าข้าวเปลือก หรือเพลงน่าฟังอย่าง อดีตรักวันเข้าพรรษา หรือ ตามใจแม่ ก็น่าฟัง

 

chalermpol mเฉลิมพล มาลาคำ หรือ ที่ผู้คนในวงการ ชาวบ้าน เรียกกันว่า บักหำ, อ้ายหำ, พ่อใหญ่บ้านหำ ("หำ" คำนี้ในภาษาอีสานหมายถึงน้องชาย พี่ชาย ไม่ได้มีความหมายในทางลบแต่อย่างใด อย่างผู้ใหญ่เรียกเด็กน้อยน่ารักว่า "บักหำน้อย" อ่านเพิ่มเติมที่นี่) สร้างชื่อจากเพลง "ตามใจแม่" กลอนลำที่ชาวอีสานคุ้นหูเป็นอย่างดี ด้วยเนื้อร้อง "ตามใจแม่ เจ้าเถิดหล้า ผู้ที่สร้างเฮามา ผู้ที่พาน้องใหญ่...." ส่งผลให้ เฉลิมพล มาลาคำ พุ่งขึ้นมาเป็นหมอลำแถวหน้าของเมืองไทย และคร่ำหวอดในวงการ ในฐานะคนเบื้องหน้า และในฐานะหัวหน้าวงดนตรีลูกทุ่งหมอลำ

และตอนนี้เขาได้ผันตัวเองมาอยู่เบื้องหลัง กลายเป็น นักแต่งกลอนลำ ที่นักร้องหมอลำทุกคนต่างต้องการงานเพลงของเขามาใส่ในอัลบั้ม ประกอบกับยุคนี้ คนฟังเพลงเริ่มนิยมเพลงลูกทุ่งอีสานมากขึ้น ยิ่งทำให้นักแต่งเพลงภาคกลางบางคนก็หันมาแต่งเพลงอีสานมากขึ้น แต่ถ้าเป็นเนื้อร้องแนวกลอนลำ ต้องมีชื่อ อาจารย์เฉลิมพล มาลาคำ อยู่ในลิสต์อย่างแน่นอน

ทำให้เขาต้องดีไซน์ความคิดมากกว่าเดิม กว่าจะเขียนคำแต่ละคำต้องให้โดน ถ้าเขียนเรียบๆ จะไม่มีจุดขาย ต้องขายความแปลก แต่ท่ามกลางความนิยมลูกทุ่งอีสาน กลับพบว่า คำอีสานบางคำ เมื่อนำมาเขียนเป็นเพลง กลับโดนแบนไม่ได้ออกอากาศ อย่างเช่นคำว่า " อ้ายหำ" ซึ่งแปลว่า พี่ชาย ทำให้ครูเพลงอย่างเฉลิมพล งุนงงไปไม่น้อย 

chalermpol 03

ล่าสุด เฉลิมพล มีผลงานการแต่ง เพลง "กะเทยประท้วง" และมอบให้ ปอยฝ้าย มาลัยพร ขับร้อง "มันเป็นโลกหนึ่งของสาวประเภทสอง บางคนรังเกียจเขา แท้ที่จริงพวกนี้ไม่มีอะไร เขาเป็นคนสร้างสีสันให้กับทุกที่ ถ้าไม่มีพวกเขาก็ไม่มีสีสัน ก็นำเอาพล็อตนี้มาเขียน และเห็นว่าบุคลิกของปอยฝ้ายเขาได้ อ้อนแอ้นๆ น่าจะร้องได้ ดูเขาแล้ว ก็เขียนเลย ใช้เวลาวันกว่าๆ เท่านั้น" นอกจากนั้นยังมีเพลง "เกาะน้องแน่นๆ" ที่ร้องโดย สายใย อุดมพร หนึ่งในกลุ่มรวมดาวสาวอีสาน ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างสูงในภาคอีสาน เพลง "กะเทยหัวโปก" ลูกแพร อุไรพร และเขียนให้กับ อ้อยใจ แดนอีสาน ในชุด "ผัวพี่นะน้อง" นอกจากนั้นก็ยังมีหนังวีซีดีเรื่อง "เพลงรักบุญบั้งไฟ"

chalermpolส่วนผลงานของตัวเอง มีงานชุด "มุ่นอุ้ยปุ้ย" ที่เป็นเพลงแนวลูกทุ่งอีสาน เกี่ยวกับการแต่งงานที่หมายถึงคืนนี้คงไม่เหลืออะไรอีก เพราะสาวคนรักแต่งงานไปแล้ว คงโดนเจ้าบ่าวปู้ยี่ปู้ยำไม่เหลือให้ชื่นชม (หลับตามองเห็นภาพความเจ็บช้ำในครั้งนี้จนน้ำตาไหลริน) ทุกวันนี้ เฉลิมพล มาลาคำ ยังคงพาวงดนตรีเดินสาย และยังคงปรับปรุงให้เป็นวงดนตรีหมอลำคุณภาพที่มีงานแน่นทั้งปี

ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในประเทศไทย พ.ศ. 2554 เฉลิมพล มาลคำ ได้สมัครเป็น สมาชิกพรรคชาติไทยพัฒนา เพื่อเตรียมสมัคร ส.ส.จังหวัดอุบลราชธานี แต่ต่อมาได้ขอถอนตัวเนื่องจากเหตุผลทางครอบครัว (ศรีภรรยาห้ามไว้เสียก่อน)

ล่าสุด เฉลิมพล มาลาคำ ได้ยุบวงดนตรีลูกทุ่งหมอลำไปแล้ว ด้วยเหตุผลถึงจุดอิ่มตัวในการทำวงดนตรีมานานหลายสิบปี และผันตัวเองมารับบทบาทล่าสุด การทำหน้าที่เป็น "ผู้ใหญ่บ้านนักพัฒนา" ที่ บ้านท่าเจริญ ตำบลท่าลาด อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี โดยได้รับเลือกตั้งมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2557

"เฉลิมพล มาลาคำ" คลายปมชีวิตถึงจุดตกต่ำ!? รายการ ยิ่งศักดิ์ยิ่งแซ่บ

และดำรงตำแหน่งดังกล่าวเรื่อยมา จนกระทั่งพ้นจากตำแหน่ง เนื่องจากครบวาระ 6 ปี เมื่อเดือน เมษายน พ.ศ. 2563 คุณงามความดีที่ทำจนได้รับรางัล "ผู้ใหญ่บ้านดีเด่น แหนบทอง" เมื่อปี 2562 ติดตามรายละเอียดได้จากสารคดีด้านล่างนี้

รายการชีวิตจริงยิ่งกว่าละคร ทางช่อง ThaiPBS

หลังได้รับเลือกตั้งเป็นผู้ใหญ่บ้าน "ผู้ใหญ่หำ" ก็ทุ่มเทให้กับการพัฒนาหมู่บ้าน สมกับการได้รับความไว้วางใจจากชาวบ้าน สร้างผลงานเข้าตากรรมการหลายอย่างจนได้รับยกย่องให้เป็น "ผู้ใหญ่บ้านดีเด่น" นับตั้งแต่ดำรงตำแหน่งจนถึงวันครบวาระ "หมอลำผู้ใหญ่บ้าน" ยังไม่เคยใช้เงินเดือนสักแดงเดียว โดยยกเงินเดือนให้เป็นกองทุนมอบให้กับผู้สูงอายุทุกบาททุกสตางค์

"เสียงจากผู้ใหญ่บ้าน" เพลงสะท้อนชีวิตจริงของ เฉลิมพล มาลาคำ

"เงินเดือนผู้ใหญ่บ้านก็รับนะ (หัวเราะ) แต่ว่าไม่ได้เอามาเข้ากระเป๋าตัวเอง เอามาทำเป็นกองทุนมอบให้กับผู้สูงอายุในหมู่บ้าน จริงๆ ตั้งแต่ยังไม่เป็นผู้ใหญ่บ้านก็มอบให้อยู่แล้ว ทำแบบนี้มานานกว่า 20 ปีแล้ว ให้ผู้เฒ่าผู้แก่คนละ 200 บาท เพราะพวกท่านไม่มีโอกาสหาเงินหาทอง หรือมีคนตายในหมู่บ้านจะเป็นใครก็ตาม ขอให้มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านมารับเงินช่วยเหลือที่ผมเลย 2,000 บาท พอได้เป็นผู้ใหญ่บ้านก็มีความคิดว่า เราเอาเงินเดือนที่ได้รับไปเพิ่มให้พวกท่านกับเบี้ยยังชีพ ตอนแรกๆ เงินเดือนผู้ใหญ่บ้านให้ได้อยู่นะ คนละ 200 บาท แต่ละเดือนเงินยังไม่หมดด้วยนะ แต่เดี๋ยวนี้ไม่เหลือแล้วเพราะผู้สูงอายุมีเพิ่มมากขึ้น และต่อไปก็ต้องเพิ่มขึ้นอีก ก็เลยคิดว่าเงินเดือน 8,000 บาท เอามาตั้งเป็นกองทุนสะสมไว้เลยดีกว่า แล้วก็ไปบริหารกันเลย" อดีตผู้ใหญ่บ้านหำกล่าวอย่างอารมณ์ดี

chalermpol 04

เงินจากพวงมาลัยแฟนเพลงมอบให้ทั้งปี กว่า 2.4 แสนบาท นำไปทอดผ้าป่า สร้างหอระฆัง ที่วัดบ้านท่าเจริญ

ทุ่มเททำงานรับใช้ลูกบ้านจนครบวาระ 6 ปี ผู้ใหญ่หำ-เฉลิมพล มาลาคำ นักร้องลูกทุ่งหมอลำ เจ้าของฉายา 'หมอลำอัจฉริยะ' กลายเป็นอดีตผู้ใหญ่บ้านท่าเจริญ หมู่ 11 ต.ท่าลาด อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี หลังส่งมอบงานให้กับ โอ้-ภูมินทร์ มาลาคำ ลูกชายวัย 29 ปี ที่ได้รับเลือกตั้งให้เป็นผู้ใหญ่บ้านคนใหม่สืบสานงานต่อ

ทั้งนี้ในการรับสมัครเลือกตั้งผู้ใหญ่บ้านที่ผ่านมา มีทายาทของผู้ใหญ่หำลงสมัครรับเลือกตั้งเพียงคนเดียว จึงได้ดำรงตำแหน่งผู้ใหญ่บ้านตามรอยผู้เป็นพ่อโดยอัตโนมัติ และมีการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 8 เมษายน 2563 ที่ผ่านมา

เฉลิมพล มาลาคำ บอกว่า แม้วันนี้ตนจะกลายเป็นอดีตผู้ใหญ่บ้านไปแล้ว แต่ก็ยังทำงานเพื่อช่วยชาวบ้านเหมือนเดิม ด้วยการให้คำปรึกษาลูกชาย ระหว่างที่ดำรงตำแหน่งผู้ใหญ่บ้าน ตั้งใจทำงานเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนในหมู่บ้านให้ดีขึ้นมาโดยตลอด พอลูกชายมารับงานต่อก็แนะนำให้เอาชนะใจชาวบ้านด้วยการทำดี พร้อมรับใช้ชาวบ้านด้วยความจริงใจ ทำงานให้สุดความสามารถ ซื่อสัตย์ตรงไปตรงมา อย่าให้โดนบ่นได้ว่าเมื่อไหร่จะออกจากตำแหน่ง

“ผมเป็นผู้ใหญ่บ้านมา 6 ปี บอกลูกให้ทำดีเป็นคนดีเหมือนพ่อ ที่พ่อเป็นมา 6 ปี เพราะทำดีชนะใจชาวบ้าน ทำยังไงให้เขารัก อย่าให้คนบ่นว่าเมื่อไหร่จะออกจากตำแหน่ง แต่ต้องให้คนพูดว่าอย่าเพิ่งออกเลย เขาก็เห็นเราทำงานมาตลอด พอเขาได้เป็นผู้ใหญ่บ้านต่อจากเราก็อยากให้เขาทำดีที่สุด ส่วนผมก็ยังเป็นที่ปรึกษาให้เขา ทำงานเพื่อชาวบ้านร่วมกันอยู่ครับ”

กับบทบาทผู้ใหญ่บ้าน ในรายการ "คนค้นคน" ของ ทีวีบูรพา

chalermpol 5

ขอแสดงความยินดีกับตำแหน่งใหม่ด้วยความไว้ใจจากชาวบ้าน "นายก อบต.ท่าลาด" เมื่อ 28 พฤศจิกายน 2564

chalermpol 6

ขอแสดงความยินดี กับ นายเฉลิมพล มาลาคำ ที่ได้รับการพิจารณาคัดเลือกรับรางวัลอันทรงเกียรติ รางวัลพระราชทาน พระธาตุนาดูนทองคำ ประจำปี 2564 ประเภทบุคคลดีเด่นในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สาขาทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม เนื่องในพิธีพระราชทานปริญญาบัตร ในวันที่ 20-21 เมษายน 2565 ณ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม

redline

backled1