song word

ารเรียนรู้ภาษาอีสานจากเพลง น่าจะเป็นหนทางที่ผู้เรียนจะเข้าใจได้ง่ายกว่า เพราะได้ยินสำเนียงเสียงอีสานจากนักร้อง บางเพลงก็ยังเรียนรู้ความหมายของคำได้ จากละครในมิวสิกวีดิโอได้อีกด้วย ตามคำขอครับสำหรับแฟนๆ ที่ชอบเพลงอีสานแต่ฟังแล้วเข้าใจความหมายได้ไม่หมด ก็ทำให้ความรู้สึกซาบซึ้งในดนตรีนั้นลดน้อยลง อยากจะทราบเนื้อหาเพลงใด ของนักร้องคนใด ก็บอกกันมาครับ ส่งอีเมล์ไปที่ webmaster (@) isangate.com จะได้นำมาเสนอเป็นลำดับต่อไป ขอแจ้งให้ทราบว่า ผู้จัดทำไม่ได้มีความต้องการโปรโมทเพลงนักร้องคนใด ค่ายใดทั้งสิ้น เพลงที่ถูกคัดเลือกมานำเสนอ จะต้องมีภาษาอีสานแทรกอยู่จำนวนหนึ่ง ที่แฟนเพลงบางท่านอาจไม่เข้าใจความหมายที่แท้จริง ฟังแล้วม่วนแต่บ่เข้าใจ จึงจะได้รับการคัดเลือกมาลงในหน้านี้ครับ

 

เสียงแคนจากแมนชั่น

คำร้อง/ทำนอง : วีระ สุดสังข์ 
    ขับร้อง : ไหมไทย ใจตะวัน 
เรียบเรียง : ธีระพงษ์ ศักดิ์แก้ว 

 

                          ได้ยินเสียงแคนดังลอยแล่นมาจากแมนชั่น
             ไผน้อพักอยู่หม่องนั่นคนไกลบ้านคือเฮาบ่น้อ
              ทำนองลายล่องลายเศร้าฟังแล้วเหงาคึดฮอดแม่พ่อ
              สะกิดใจให้คึดพ้อหลายสิ่งที่รออยู่ในความจำ

                           นับแต่ความจนพาดิ้นรนเป็นคนไกลถิ่น
              ความทุกข์บีบให้ต้องดิ้นยากงานบ่เซาแต่เช้าฮอดค่ำ
              มาไกลหลายปีติดต่ออยู่ กทม. บ่ได้ฟังลำ
              คืนนี้เหมือนแคนไถ่ถามว่าลืมทางเมือบ้านแล้วไป่

                           แม่นผู้ใด๋เป็นคนเป่าแคนกะส่าง
              แต่คนหลอยฟังมันช่างมีแฮงใจหลาย
              คนอยู่แมนชั่นยังเป่าแคนหวานซ้ำบ่ย่านอาย
              ยืนยันว่าเจ้าของเป็นไผออนซอนน้ำใจเจ้าของเสียงแคน

                         * ลายสุดสะแนนเสียงแคนแล่นจากแมนชั่น
              หล่อเลี้ยงคนเหงาไกลบ้านสู้เพื่อฝันบนทางยากแสน
              ให้แน่นเหนียวคือปั้นข้าวคนบ้านเฮาฮักกันมั่นแก่น
               เป่าอีกแนเด้อหมอแคนช่วยเป็นตัวแทนกล่อมใจไกลบ้าน

                                        (ซ้ำ *)

 

      มีคำที่เป็นภาษาอีสานหลายคำที่น่าสนใจดังนี้

ลอยแล่น = ลอยลม
หม่องนั่น= ที่นั่น
คึดฮอด = คิดถึง
บ่เซา = ไม่หยุด (หย่อน)
ทางเมือบ้าน = ทางกลับบ้าน
ผู้ใด๋ = ใคร (ผู้ใด)
หลอยฟัง = แอบฟัง
บ่ย่านอาย = ไม่กลัวอาย
คนบ้านเฮาฮักกันมั่นแก่น = คนบ้านเรารักกันมั่นคง
ไผน้อ = ใครหนอ
คือเฮาบ่น้อ = เหมือนเราไหมหนอ
คึดพ้อ = คิดถึง (อดีต)
เช้าฮอดค่ำ = เช้ายันเย็น
แล้วไป่ = แล้วหรือ
กะส่าง = ก็ช่าง
มีแฮงใจ = มีกำลังใจ
ออนซอน = ยินดี (นิยม ชมชื่น)
อีกแนเด้อ = อีกหน่อยนะ

 

 

“เสียงแคนจากแมนชั่น” ขับร้องโดย ไหมไทย ใจตะวัน หรือ ไหมไทย หัวใจศิลป์ ในปัจจุบัน แต่งโดย วีระ สุดสังข์ ครูและกวีแห่งภาคอีสาน คงเพราะเป็นเพื่อนกับ ครูสลา คุณวุฒิ จึงได้รับโอกาสนี้ ตั้งแต่สมัยแต่งเพลง “กำแพงปริญญา” ให้ ต่าย อรทัย ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ครูสลาเองก็พยายามเอื้อโอกาสเพื่อนหลายคน ซึ่งมีความเป็นกวี แม้ว่าเพลงที่มีความเป็นบทกวี อาจฟังยากและเป็นจุดขายน้อย แต่ถึงจุดหนึ่งแล้ว เพลงแบบนี้จะเป็นเสน่ห์ และสามารถยกระดับพัฒนาทั้งตัวนักร้อง ค่ายเพลง และวงการเพลงลูกทุ่ง

mai tai 10

“เสียงแคนจากแมนชั่น” เพียงชื่อก็บอกเรื่องเล่า แคน คือ ชนบท แคน คือ อีสาน แมนชั่น คือ เมืองหลวง สองสิ่งนี้เหมือนขัดแย้ง แต่กลับกลมกลืนกันอยู่ในที โดยเฉพาะโลกสมัยใหม่ ที่เคลื่อนเปลี่ยนชนบทกับเมืองให้คละเคล้ากัน สมัยที่ทำงานอยู่เมืองหลวง ผมเองก็เคยอาศัยแมนชั่น แม้ไม่เคยได้ยินเสียงแคน แต่ก็รู้ว่ามีคนบ้านเดียวกันร่วมอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก บางวันได้ยินเสียงหมอลำ บางวันได้กลิ่นปลาร้าจากส้มตำ ซุปหน่อไม้ ถึงส่วนตัวจะไม่ได้ทักทายกันสนิทสนม แต่เสียงและกลิ่นเหล่านี้ สามารถทำให้เราถูกชะตากันได้ง่ายๆ

redline

backled1