หายใจรับปีใหม่แป๊บๆ กะมาฮอดครึ่งปี 2566 แล้วเด้อพี่น้อง เป็นจั่งใด๋กันแหน่น้อหลังจากม่วน "สงกรานต์ไทย" ที่คึกคักยิ่งใหญ่กันไปแล้ว ก็มาถึง "บุญบั้งไฟ" จุดถวยไท้ถวยแถน ร้องขอให้ฝนตกต้องตามฤดูกาล สิได้ลงไฮ่ลงนากัน สำหรับเดือนมิถุนายนที่จะถึงในปีนี้ก็จะมีเทศกาล งานประเพณี เอาบุญบ้านเฮาอยู่หลายงาน ทางชุมชน หมู่บ้าน อบต. อบจ. หรือหน่วยงานใดจัดขึ้น อยากจะเผยแพร่ก็แจ้งมาเด้อครับ บริการให้ฟรีๆ บ่มีค่าใช้จ่ายใดๆ
- บุญประเพณี "วันวิสาขบูชา" ในทุกจังหวัดภาคอีสาน วันเสาร์ที่ 3 มิถุนายน 2566
- เทศกาลทุเรียนภูเขาไฟศรีสะเกษ จังหวัดศรีสะเกษ ระหว่างวันที่ 23 มิถุนายน - 2 กรกฎาคม 2566
- เทศกาลทุ่งดอกกระเจียวบาน อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม จังหวัดชัยภูมิ ระหว่างเดือนมิถุนายน-สิงหาคม 2566
เทศกาลทุเรียนภูเขาไฟศรีสะเกษ
ในฐานะที่ จังหวัดศรีสะเกษ เป็น "แหล่งผลิตผลไม้เพื่อการส่งออก" ที่สำคัญแห่งหนึ่งของประเทศ อันเกิดจากความได้เปรียบทางด้านภูมิประเทศ ที่มีสภาพเป็น "ภูเขาไฟ" ที่ดับสนิทแล้ว ในดินมีระดับความอุดมสมบูรณ์ของแร่ธาตุต่างๆ เหมาะแก่การทำเกษตร ปัจจุบัน สามารถสร้างรายได้มหาศาลจากผลผลิตโดยเฉพาะผลไม้ประเภท เงาะ ทุเรียน มังคุด สะตอ รวมทั้ง ยางพารา เป็นจุดศูนย์กลางในการรวบรวมผลผลิตการเกษตร จากทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทย
จังหวัดศรีสะเกษ เป็นแหล่งปลูกทุเรียนที่ใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีพื้นที่ปลูกทุเรียนทั้งหมด 15,111 ไร่ พื้นที่ให้ผลผลิตแล้ว 5,594 ไร่ โดยเฉพาะใน 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอกันทรลักษ์ ขุนหาญ และศรีรัตนะ เป็นบริเวณพื้นที่ดินภูเขาไฟที่มีลักษณะเหนียว อนุภาคดินละเอียดสลับกับหินหยาบสีแดง ระบายน้ำดี มีธาตุอาหารชนิดต่างๆ ที่จำเป็นต่อพืชในปริมาณสูง ส่งผลให้ทุเรียนภูเขาไฟมีรสชาติดี เนื้อทุเรียนแห้ง เส้นใยละเอียด กรอบนอก นุ่มใน หอมละมุนลิ้น กลิ่นไม่ฉุน เป็นที่ต้องการของตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ซึ่ง "ทุเรียนภูเขาไฟศรีสะเกษ" เป็นหนึ่งในประเด็นการขับเคลื่อนวาระจังหวัด "เกษตรบูรณาการ" พืชเศรษฐกิจที่สำคัญของจังหวัด และได้รับประกาศขึ้นทะเบียนเป็นสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ GI มีระยะการเจริญเติบโตออกดอกในช่วงมกราคม และติดผลในช่วงเดือนมกราคม ถึง มีนาคม และทุเรียนพร้อมรับประทานประมาณ 120 วัน ระหว่างช่วงเดือนพฤษภาคม-สิงหาคม
ก่อนจะถึงงานที่ตัวจังหวัดดศรีสะเกษ ก็มีงาน "เทศกาลงานผลไม้ของดีอำเภอกันทรลักษณ์" ที่เป็นแหล่งดินภูเขาไฟในอดีต สามารถปลูกผักผลไม้นานาชนิดได้คุณภาพมากมายทั้ง เงาะ มังคุด ลางสาด สะตอ พร้อมทั้ง "ทุเรียนภูเขาไฟ" อันเลื่องชื่อ ซึ่งจะจัดงานในวันที่ 15-21 มิถุนายน 2566 นี้ ณ สนามหน้าที่ว่าการอำเภอกันทรลักษณ์ จังหวัดศรีสะเกษ ใครเป็นแฟนพันธู์แท้ทุเรียนภูเขาไฟพลาดไม่ได้เด้อ...
และยังมีงานปิดท้ายสำหรับ "ทุเรียนภูเขาไฟ" อีกงานที่แหล่งปลูกสำคัญอีกแหล่งของศรีสะเกษ คือ อำเภอขุนหาญ ไปตำกันเลยกับ "งานเทศกาลผลไม้และของดีศรีขุนหาญ ครั้งที่ 21" ระหว่างวันที่ 4-10 กรกฎาคม 2566 ณ สนามวงกลมอำเภอขุญหาญ จังหวัดศรีสะเกษ
นอกจากที่จังหวัดศรีสะเกษแล้ว ที่ บ้านบุเปือย อำเภอน้ำยืน อุบลราชธานี ก็มี "ทุเรียนภูเขาไฟ" เหมือนกัน เพราะมีแนวภูเขาไฟและดินที่มีความอุดมสมบูรณ์คล้ายคลึงกัน และมีผลผลิตออกก่อนทางอำเภอขุนหาญ อำเภอกันทรลักษณ์ จังหวัดศรีสะเกษ ในช่วงปลายเดือนพฤษภาคม ก็แวะไปชิมที่สวนกันได้ทั้ง เงาะ ลองกอง ทุเรียน ที่อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี กันนะครับ
วันที่จัดงาน : 23 มิถุนายน - 2 กรกฎาคม 2566
สถานที่จัดงาน : สนามหน้าศาลากลางจังหวัดศรีสะเกษ
วันวิสาขบูชา
วันวิสาขบูชา นับว่าเป็นวันสำคัญสากลทางพระพุทธศาสนา สำหรับชาวพุทธทุกนิกายทั่วโลก เป็นวันหยุดราชการในหลายๆ ประเทศ อีกทั้งยังเป็นวันสำคัญในระดับนานาชาติตามข้อมติของ สมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ เนื่องจากเป็นวันคล้ายวันที่เกิดเหตุการณ์สำคัญที่สุดในพระพุทธศาสนา 3 เหตุการณ์ ได้แก่ การประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพานของพระพุทธโคดม ซึ่งทั้ง 3 เหตุการณ์นี้ได้เกิดขึ้นตรงกัน ณ วันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 หรือวันเพ็ญแห่งเดือนวิสาขะ (ต่างปีกัน) ชาวพุทธจึงถือว่าเป็นวันที่รวมการเกิดเหตุการณ์อันน่าอัศจรรย์ยิ่ง และเรียกการบูชาในวันนี้ว่า วิสาขบูชา ย่อมาจาก วิสาขปุรณมีบูชา หมายถึง การบูชาในวันเพ็ญเดือนวิสาขะ
วันวิสาขบูชา ปีนี้ตรงกับวันเสาร์ที่ 3 มิถุนายน 2566 กิจกรรมที่พุทธศาสนิกชนพึงปฏิบัติใน วันวิสาขบูชา ได้แก่
- ทำบุญใส่บาตร กรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลให้ญาติที่ล่วงลับ และเจ้ากรรมนายเวรจัด
- สำรับคาวหวานไปทำบุญถวายภัตตาหารที่วัด
- และปฏิบัติธรรม ฟังพระธรรมเทศนาปล่อยนกปล่อยปลา เพื่อสร้างบุญสร้างกุศล
- ร่วมเวียนเทียนรอบอุโบสถที่วัดในตอนค่ำ เพื่อรำลึกถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
- ร่วมกิจกรรมเกี่ยวกับวันสำคัญทางพุทธศาสนา
- จัดแสดงนิทรรศการ ประวัติ หรือเรื่องราวความเป็นมาเกี่ยวกับวันวิสาขบูชาตามโรงเรียน หรือสถานที่ราชการต่างๆ เพื่อให้ความรู้ และเป็นการร่วมรำลึกถึงความสำคัญของวันวิสาขบูชา
- ประดับธงชาติตามอาคารบ้านเรือน วัดและสถานที่ราชการ
- บำเพ็ญสาธารณประโยชน์
ก็ขอเชินชวนชาวพุทธทุกท่านได้ไปทำบุญ ประกอบศาสนกิจในวัดวาอารามใกล้บ้านท่านได้ หากท่านไม่สะดวกในการไปทำบุญที่วัด ก็เชิญชวนให้พุทธศาสนิกชนร่วม "เวียนเทียนออนไลน์" ใน "วันวิสาขบูชา" 2566 ซึ่งมีเว็บไซต์หลายแห่งจัดทำขึ้นเพื่อการนี้ เช่น www.เวียนเทียนออนไลน์.com และอื่นๆ อีกมากครับ ค้นหาในเพื่อนกู (Google) ได้เลย
วันที่จัดงาน : 3 มิถุนายน 2566
สถานที่จัดงาน : ในทุกจังหวัดทั่วอีสานและประเทศไทย (โปรดติดตามข่าวสารในท้องถิ่นของท่าน)
ชม "ทุ่งดอกกระเจียวบาน" @ชัยภูมิ
ด้วยภาพความงานของ "ดอกกระเจียวป่า" บานสะพรั่งด้วยสีชมพู สีขาวตัดกับสีเขียวของป่านี่เองที่ทำให้ใครๆ ใฝ่ฝันว่าจะมาเยือนความงามแบบนี้สักครั้งในชีวิต ฉากความงามที่ปรุงแต่งโดยธรรมชาติทำให้ชัยภูมิสามารถนำมาสร้างเป็นจุดขาย และเป็นกิจกรรมประจำปี กับงาน "เทศกาลท่องเที่ยว ดอกกระเจียวงาม" ทุกช่วงฤดูฝนของปี เก็บความงามของทุ่งดอกกระเจียว หรือ บัวสวรรค์ เต็มหุบเขา ท่ามกลางทะเลหมอก และเพื่อให้ผู้เข้าชมงานได้รับความสนุกสนานเพิ่มมากขึ้น ในงานจึงมีกิจกรรมต่างๆ มาให้ผู้เข้าชมได้ร่วมสนุก อาทิ ขบวนแห่ การแสดงดนตรี การแข่งขันเดินเพื่อการกุศล และหาซื้อของฝากจากร้านรวงที่จะนำสินค้า OTOP มาจัดจำหน่าย
นับเป็นกิจกรรมที่จัดต้อนรับฤดูฝน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการสร้างงาน สร้างรายได้ ให้กับชุมชนในท้องถิ่นสามารถสร้างการรับรู้ให้กับนักท่องเที่ยว และผู้ที่สนใจทั่วไปที่เดินทางมาเยือนดินแดนชัยภูมิ กิจกรรมที่น่าสนใจอื่นๆ อาทิ ขบวนแห่กระเจียวคืนทุ่ง การแสดงดนตรีจากศิลปินที่มีชื่อเสียง ชมสวนหินงาม ป่าหินล้านปีที่มีการเปลี่ยนแปลงไปตามธรรมชาติปั้นแต่งตามแต่จะสุดจินตนาการ การแสดง และจำหน่ายสินค้าที่มีชื่อเสียงของจังหวัดชัยภูมิ อีกทั้งทุ่งดอกกระเจียวสีขาว สีเขียวและสีชมพูอมม่วง น้ำตกไทรทอง และจุดชมวิว ผาหำหด ของอุทยานแห่งชาติไทรทอง ก็เป็นอีกสถานที่ที่รอการมาเยือนของนักท่องเที่ยวให้เดินทางท่องเที่ยว ด้วยหัวใจใหม่ อันจะส่งผลให้การท่องเที่ยวของจังหวัดชัยภูมิยั่งยืนได้
เกร็ดความรู้เกี่ยวกับการเที่ยวชมทุ่งดอกกระเจียว
- ควรไปเที่ยวชมในช่วงเช้าๆ เพราะอากาศไม่ร้อนจนเกินไป ถ้าไปช่วงเช้าหลังฝนตกจะได้เห็นสายหมอกบางๆ คลอเคลียดอกกระเจียวด้วย ดังในคลิปด้านบนจะสวย เดินชมไม่เหนื่อยง่าย
- อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม เข้าเที่ยวชมได้ตั้งแต่เวลา 06.00-18.00 น. ส่วนอุทยานแห่งชาติไทรทอง เข้าเที่ยวชมได้ตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น.
- การเข้าเที่ยวชมทั้ง 2 สถานที่มีค่าธรรมเนียม คนไทยผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท ชาวต่างชาติผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาท
- อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม จะต้องนั่งรถรางเข้าไปยังทุ่งดอกกระเจียว (ค่ารถรางผู้ใหญ่คนละ 30 บาท เด็ก 20 บาท) ส่วนอุทยานแห่งชาติไทรทอง ต้องนั่งรถกระบะของชาวบ้านเข้าไปยังบริเวณทุ่งดอกกระเจียว ไป-กลับคนละ 60 บาท
- ด้วยความที่ทั้ง 2 แห่งมีสภาพโดยทั่วไปเป็นป่าไม้ร้อนชื้นที่สมบูรณ์ บนเส้นทางชมดอกกระเจียวบางจุดอาจจะเป็นป่ารก มีต้นหญ้าขึ้นสูง จึงควรแต่งกายให้เหมาะสมกับการเดินป่า เตรียมรองเท้าที่ใส่สบายเข้าไปในพื้นที่ พร้อมด้วยเครื่องป้องกันแดดและฝน
- ห้ามเด็ด/ถอน/โน้มกิ่ง/สัมผัสดอกกระเจียว รวมทั้งห้ามเดินเหยียบย่ำเข้าไปยังพื้นที่ทุ่งดอกกระเจียว ให้เดินชมบนเส้นทางที่เจ้าหน้าที่จัดไว้เท่านั้น
- ห้ามทิ้งขยะในเขตพื้นที่ทุ่งดอกกระะเจียว ให้ทิ้งในจุดที่เจ้าหน้าที่จัดไว้ให้เท่านั้น
- ปฏิบัติตามกฎระเบียบของอุทยานแห่งชาติอย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวเอง
วันที่จัดงาน : มิถุนายน - สิงหาคม 2566
สถานที่จัดงาน : อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม อุทยานแห่งชาติไทรทอง จังหวัดชัยภูมิ
[ อ่านเพิ่มเติม : ท่องเที่ยวอีสานในหน้าฝน ]
Free Free! โฆษณางานประเพณีของท่านที่นี่
หากแฟนานุแฟนของเว็บไซต์อีสานบ้านเฮา หรือหน่วยงานราชการ จังหวัด อำเภอ เทศบาล อปท. ใดๆ มีข่าวสารการจัดงานบุญประเพณีในท้องถิ่นของท่าน อยากจะเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ ก็แจ้งมายังทีมงานได้ครับ ผ่านทางอีเมล์ webmaster @ isangate.com หรือผ่านทาง Inbox ใน Fanpage Facebook : IsanGate ก็ได้เช่นเดียวกันครับ ขอรายละเอียด วันเวลา สถานที่จัดงาน กิจกรรมต่างๆ ที่น่าสนใจ ถ้ามีภาพประกอบด้วยก็จะดีเยี่ยมครับ (ภาพของงานปีก่อนๆ หรือการคประชุมเตรียมงาน) บริการท่านฟรีๆ ครับ ไม่มีค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด