klonlum header

กลอนเต้ยหรือผญา

"กลอนผญา" นี้ คนโบราณใช้พูดเกี้ยวพาราสีกัน เมื่อชายหนุ่มหรือหญิงสาว ไปพบกัน ถ้ามีความรักใคร่พอใจกัน จะพูดเกี้ยวกันเป็นผญา เรียก "จ่ายผญา" แต่ พวกผู้ไทยในเขตมุกดาหาร นครพนม สกลนคร เอาผญานี้ไปใช้เป็นกลอนลำ

เมื่อไปลำ ณ ที่ใด ก็เอาผญาไปเป็นกลอนลำ ลำเกี้ยวกันไปเกี้ยวกันมา ลำเป็นบทกลอนสั้นๆ ต่อมาพวกลำกลอนเห็นว่า แบบผู้ไทยสะดวกไม่ต้องท่องกลอนยาว จึงเลียนแบบผู้ไทยมาลำ เปลี่ยนชื่อกลอนไปใหม่ว่า "ลำเต้ย" เอาชื่อบ้านชื่อเมืองไปตามเจ้าของ เช่น เต้ยหัวดอนตาล เต้ยศรีภูมิ เต้ยพม่า เป็นต้น ความจริงก็คือ "ลำผญา" นั้นเอง จะได้นำเอาเต้ยมาแสดงพอเป็นตัวอย่าง ดังต่อไปนี้

 
  • ตายดับนกเอี้ยงฝ้าย ตายวายนกเอี้ยงโหม่ง ตายดับนกอีจู้ ชูแล้วจั่งแต่งดอง
  • อันว่าเครือบุ่นเกี้ยวเครือบุ่นซ้ำผัดตาย อันว่าเครือหวายเกี้ยวเครือหวายซ้ำผัดเน่า อันว่าชู้เก่าน้องทางบ้านก็บ่มี ดอกนา
  • น้ำต้องตาดคือน้องสิแกว่งหลา น้ำต้องผาคือน้องสิแกว่งอิ้ว ฟ้ายิกคิ้วคือน้องสิแกว่งแขวน
  • เห็นว่าดำขี้หลี่อย่าฟ้าวขี่เฮือกลาย เห็นว่าดำขอยลอยอย่าฟ้าวพายเฮือเว้น บาดว่าเฮือคาแก้งดำขอยลอยสิได้ช่อย คันบ่ได้ช่อยน้อยยังชิได้ช่อยหลาย
  • ผู้จบจั่งน้องผู้งามจั่งน้องยืมเพศผู้ใดมา ผู้จบจั่งน้องผู้งามจั่งน้องยืมขาผู้ใดย่างมานอ หือแม่นเทพะไท้ลวงล้อให้พี่ตาย บ้อนอ
  • บ่จบปานใดแล้ว บ่งามปานใดแล้วหูตามีให้เบิ่งเอาถ้อน คันแม่นดีแลฮ้ายเชิยเจ้าให้เบิ่งเอา หั้นถ้อน
  • ผู้จบจั่งเจ้า ผู้งามจั่งเจ้าอยากขอแนวไปปลูก คันแม่นได้ลูกแล้ว แนวเจ้าสิส่งคืน ดอกนา
  • ย้านแต่ติแถลงเว้าเอาเงางามาปั้นฮูบ เอาหีนแฮ่มาคั้นส้ม เอาลมเฮ็ดตองห่อ เอาแดดมาเฮ็ดตอกกิ้ว สิไปหมั้นบ่อนใด
  • บ่ได้ติแถลงหล้ม ตมบ่มีคาดลาดหมื่น บ่ได้คาดลาดล้มเดือนห้าก่อนฝน ดอกนา
  • ลมพานต้องตองแกย้านบ่แน่ ลมพานต้องตองแต้แน่บ่นอ

 

ลำเต้ย ม่วนๆ ยาวๆ โดย หมอลำฉวีวรรณ ดำเนิน ศิลปินแห่งชาติ ปี 2536

เต้ยหัวดอนตาล หมอลำคำปุ่น ฟุ้งสุข

ป่อนผญาหาแฟน - อังคนางค์ คุณไชย + รุ่งฟ้า กุลาชัย

redline

backled1