• ธรรมะในดินแดนอีสาน

    พุทธศาสนา : เผยแผ่ เบ่งบาน งดงามในดินแดนอีสาน

  • เที่ยวงานแห่เทียนพรรษาอุบลราชธานี

    ชมความงามวิจิตรอุบลราชธานีแสงสีตระการตา และงานประเพณีแห่เทียนพรรษาอุบลราชธานี

  • เที่ยวนครพนม

    เที่ยวนครพนมชมความงดงามริมแม่น้ำโขง ร่วมงานไหว้พระธาตุพนม ขอพรประจำปี

  • ธรรมชาติงดงามบนภูกระดึง

    ความสุขที่คุณเดินได้ให้จดจำว่า ครั้งหนึ่งในชีวิตเราเคยพิชิตภูกระดึง

  • สามพันโบก

    รุ่งอรุณ ณ สามพันโบก มหัศจรรย์ลานหินกลางลำน้ำโขง

  • รุ่งอรุณ ณ ผาแต้ม

    ตะวันขึ้นก่อนใครในสยามประเทศ @ผาแต้ม อุบลราชธานี

  • เขาใหญ่

    ไปเที่ยวชื่นชมธรรมชาติมรดกโลก @อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ นครราชสีมา

  • ผามออีแดง

    ปลายฝนต้นหนาวไปชมทะเลหมอก @ผามออีแดง จังหวัดศรีสะเกษ

  • อีสานธรรมชาติสวยงามหลากหลาย

    ภาคอีสานมีธรรมชาติสวยงาม น้ำตก เสาหิน และมหัศจรรย์ธรรมชาติกุ้งเดินขบวน

  • เทศกาลดอกลำดวนบาน

    เทศกาลดอกลำดวนบาน สืบสานประเพณีสี่เผ่าไท ศรีสะเกษ การแสดงแสงสีเสียงละครอิงประวัติศาสตร์ “ศรีพฤทเธศวร”

: Our Sponsor

adv200x300 2

: My Web Site

krumontree200x75
easyhome banner
ppor 200x75
isangate net
e mail

ซว้า หรือ ซั้วไก่

sawa header

ซั้ว หรือ ซว้า คือการปรุงอาหารชนิดหนึ่งจะว่าเหมือนต้มก็ไม่ใช่ จะว่าเหมือนลาบก็ไม่เชิง วิธีการโดยสังเขปคือ การเอาเนื้อสัตว์ที่จะทำมาต้มให้สุก (ในน้ำต้มอาจจะใส่เคื่องสมุนไพร ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด เพื่อดับกลิ่นคาว เกลือและน้ำปลาร้า) จากนั้น นำเนื้อสัตว์มาฉีกให้เป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย เพื่อให้เคี้ยวได้ง่ายๆ (อาวทิดหมูกะคึดฮอดตอน ไก่ตี แพ้พนัน เจ้าของเลยเอามาต้มให้เปื่อยก่อนทำซั้ว ซั่นแหล่ว) จากนั้นจึงนำมาปรุงซั้ว โดยอุ่นน้ำต้มให้ร้อน ตักใส่ชาม (ปรุงเสิร์ฟทีละชาม) ใส่เนื้อสัตว์ฉีกลงไป เติมพริกป่น ข้าวคั่ว คนให้เข้ากัน ชิมรสให้ออกเค็ม นัว กลมกล่อม หอมกลิ่นข้าวคั่ว โรยต้นหอม ผักชีฝรั่ง จัดเสิร์ฟพร้อมกับข้าวเหนียวนึ่ง แซบหลายเพิ่นว่า เนื้อสัตว์ที่นิยมเอามาทำก็อย่างเช่น กบ อึ่งอ่าง ไก่บ้าน (โดยเฉพาะพวกไก่ตี ไก่แม่ไข่ปลดระวาง) ซึ่งมีเนื้อเหนียวไม่เหมาะแก่การทำอาหารต้มแซบแบบปกติ นั่นเอง

เนื้อหาในตอนนี้จะกล่าวถึง การทำซั้ว หรือ ซว้าไก่ ที่เห็นว่าเป็นที่ยอดฮิตในหลายๆ พื้นที่ภาคอีสาน จนได้รับการคักเลือกให้เป็น "๑ จังหวัด ๑ เมนู เชิดชูท้องถิ่น รสชาติที่หายไป" ซึ่งจะมีขั้นตอนการทำแตกต่างกันบ้างเล็กน้อยตามวัฒนธรรมท้องถิ่นนั้น มาดูกันว่ามีจังหวัดไหนบ้าง

ซว้าไก่ | ซั่วไก่ | ไก่ซั๊วะสาวหลง | โหย่ย

redline

ซว้าไก่ จังหวัดกาฬสินธุ์ (2567)

ซว้าไก่ (หรือ ซั่วไก่) คือ เมนูอาหารพื้นถิ่นอีสานของชาวผู้ไท (ภูไท) ที่โดดเด่นของจังหวัดกาฬสินธุ์ เป็นแกงไก่รสชาติจัดจ้าน เปรี้ยว เผ็ด เค็ม หอมสมุนไพร และปลาร้า ใช้เนื้อไก่ฉีก ปรุงรสด้วยข้าวคั่ว พริกป่น มะนาว ผักแพว ต้นหอม ผักชี และมีจุดเด่นคือการใช้ ใบมะขาม หรือผักสมุนไพรอื่นๆ เพื่อเพิ่มความเปรี้ยวหอม

เมนูนี้สันนิษฐานว่า มาจาก การเลี้ยงปู่ตา ที่มีการนำไก่ต้มทั้งตัว พร้อมด้วยเหล้าขาว มาไหว้ปู่ตาที่ศาล เมื่อทำพิธีเสร็จก็จะนำไก่ต้มดังกล่าวมาทำอาหารเลี้ยงผู้มาร่วมในพิธี ไม่นำกลับบ้าน ไก่ต้มตัวนี้ก็แค่ต้มสุกไม่ได้ปรุงรส จึงต้องนำเอาเนื้อมาฉีกเป็นชิ้น ฝอย ปรุงรสด้วยพริกป่น น้ำปลาร้า ใส่ต้นหอม ผักชี เรียกกันว่า ซว้าไก่ ส่วนในปัจจุบันนี้ ไม่ต้องไหว้ปู่ตาก็ทำกินกันได้ทุกเมื่อ เปลี่ยนมาเป็นไก่บ้านรุ่นหนุ่ม-สาวเนื้อไม่เหนียวอร่อยกว่าเยอะเลย

sawa kai 1

วิธีการและขั้นตอนการปรุง
  1. เตรียมเครื่องปรุงน้ำต้มไก่ ข่าอ่อนหั่น ต้นตะไคร้ทุบพร้อมใบ ใบมะกรูด เกลือ ยอดชะมวง ยอดมะขามอ่อน
  2. นำไก่บ้าน ถอนขน เอาเครื่องในออก แล้วล้างให้สะอาด
  3. ตั้งหม้อน้ำ เพื่อต้มไก่ ใส่ข่าอ่อน ต้นตะไคร้ทุบพร้อมใบ ใบมะกรูด เกลือ กระเทียมทุบ พอน้ำเดือด ใส่ไก่สดทั้งตัว ใส่ยอดชะมวง และยอดมะขามอ่อน
  4. ต้มประมาณ 45 นาที เนื้อไก่เปื่อยดีแล้ว ยกหม้อลงจากเตา
  5. นำไก่ออกมาวางให้เย็นลง แล้วฉีกเนื้อไก่ออกจากระดูกไก่ เป็นชิ้นให้พอดีคำ
  6. เตรียมหั่นต้นหอม ผักชี ผักแพว สะระแหน่ ผักชีฝรั่ง
  7. นำเนื้อไก่ที่ได้ใส่ลงไปในน้ำต้มไก่ที่พักไว้ แล้วนำต้นหอม ผักชี ผักแพว สะระแหน่ ผักชีฝรั่ง ที่หั่นเตรียมไว้แล้ว ตามลงไป นำพริกป่น ลงไปคลุกเคล้าให้เข้ากัน ปรุงรสตามชอบ ตักใส่ถ้วย พร้อมเสิร์ฟ

ซว้าไก่ ๑ จังหวัด ๑ เมนู เชิดชูอาหารถิ่น จังหวัดกาฬสินธุ์

เคล็ดลับการปรุง ในการทำซว้าไก่ จะต้องใช้ไก่บ้าน ไก่สาว อายุไม่เกิน 6 เดือน ซึ่งจะมีเนื้อแน่น ไขมันน้อย และพริกป่นจะต้องคั่วและตำใหม่ๆ ใส่ในซว้าไก่จะทำให้กลิ่นหอมชวนรับประทาน

ชั่วไก่ จังหวัดบึงกาฬ (2567)

"ชั่วไก่" (ซั้วไก่) ในจังหวัดบึงกาฬ คือ อาหารอีสานพื้นบ้านประเภทแกงไก่รสแซ่บ ที่ปรุงจากไก่บ้าน หน่อไม้ดอง และผักพื้นบ้าน เช่น ผักแพรว (ผักแพ้ว) มีรสชาติเผ็ด เค็ม นัว หอมเครื่องสมุนไพร เป็นเมนูเด็ดที่ได้รับความนิยมและเป็นที่รู้จักของคนท้องถิ่น เป็นเมนูที่มาจาก "ไก่" ที่เหลือมาจากการทำบุญประเพณีเช่นเดียวกัน ทั้ง การบายศรีสู่ขวัญ จะมีพานบายศรี หรือภาษาถิ่นเรียกว่า พาขวัญ หรือ พานพาขวัญ เป็นเครื่องถวายประกอบพิธีกรรมต่างๆ ในพานนอกจากดอกไม้ธูปเทียน ก็ยังมีขนม ข้าวต้ม ไก่ต้ม ไข่ต้ม อีกด้วย หลังจากเสร็จสิ้นพิธีกรรม คนภูไทจะนำเครื่องประกอบภายในพานแจกจ่ายให้ทุกคนได้รับประทาน เนื่องจากมีความเชื่อว่า “เมื่อได้รับประทานแล้วจะมีความเป็นสิริมงคล” แต่ด้วยไก่ต้มมีรสชาติจืดทำให้คนภูไทดัดแปลงปรุงรสชาติเพิ่มความอร่อยมากยิ่งขึ้น จึงกลายเป็น “ซั่วไก่” ในปัจจุบัน

sawa kai 2

วิธีการและขั้นตอนการปรุง
  1. นำหม้อต้มน้ำให้เดือดใส่ข่า ตะไคร้ เกลือ น้ำปลา ผสมให้เข้ากัน แล้วนำไก่ลงต้มทิ้งไว้ 10 นาที
  2. เมื่อไก่สุกจะมีลักษณะเนื้อเปื่อย นิ่ม ทำการปิดไฟแล้วยกหม้อลง พักน้ำต้มไก่ให้เย็น
  3. นำไก่ที่ได้ฉีกเป็นชิ้นเล็กๆ พอดีคำ
  4. นำเนื้อไก่ที่ได้ผสมลงกับน้ำต้มไก่อีกครั้ง ปรุงรสด้วยพริกผง ข้าวคั่ว มะขามเปียก ใบมะขามอ่อน ผงชูรส ผสมให้เข้ากัน แล้วเติมผักชี ต้นหอมซอย ใบสะระแหน่ และผักแพรว คนผสมอีกครั้ง พร้อมเสิร์ฟใส่จาน

ซั่วไก่ จังหวัดบึงกาฬ

เคล็ดลับการปรุง ต้มซั่วไก่ มีจุดเด่นที่ 'ผักแพรว' เป็นส่วนผสมหลักที่ขาดไม่ได้

ไก่ซั๊วสาวหลง - จังหวัดเลย (2568)

ไก่ซั้วสาวหลง (หรือ ไก่ซั๊วะสาวหลง) คือ สุดยอดเมนูพื้นถิ่นของจังหวัดเลย โดยเฉพาะที่ตำบลภูหอ อำเภอภูหลวง ที่แฝงไปด้วยเรื่องราวและภูมิปัญญา ด้วยภูมิประเทศที่เป็นที่ราบเชิงเขา รายล้อมด้วยป่าไม้ ทำให้ภูหอเป็นบ้านของสัตว์ป่านานาชนิด โดยเฉพาะ "ไก่ป่า" ที่มักลงมาหากินในพื้นที่เกษตรกรรมของชาวบ้าน และได้ผสมพันธุ์กับไก่บ้านจนเกิดเป็น "ไก่สายพันธุ์ผสม" จากนั้นชาวบ้านก็นำมาเลี้ยงด้วยว่านสาวหลง ซึ่งเป็นสมุนไพรท้องถิ่นที่มีสรรพคุณโดดเด่น ทำให้เนื้อไก่แน่น สีขาว และมีรสชาติเป็นเอกลักษณ์ และเชื่อกันว่ามีสรรพคุณทางยาและเสน่ห์เมตตามหานิยม เป็นอาหารท้องถิ่นที่หากินยาก

ว่านสาวหลง (ว่านมหาเสน่ห์) ไม่เพียงแต่ทำให้ไก่มีสุขภาพดี แต่ยังเชื่อกันว่าจะทำให้คนที่ได้ลิ้มลองมีผิวพรรณสดใส ดูอ่อนเยาว์ และมีร่างกายแข็งแรงยืนยาว นอกจากนี้ ในอดีต ว่านสาวหลงยังถูกนำมาใช้ในพิธีกรรมความเชื่อต่างๆ เพื่อความเป็นเมตตามหานิยมอีกด้วยนะครับ

sawa kai 3

วัตถุดิบและเครื่องปรุงไก่ซั้วสาวหลง
  • ไก่พันธ์ผสมพื้นบ้าน (เลี้ยงด้วยว่านสาวหลง)
  • ว่านสาวหลง ใบส้มป่อย
  • ขิง พริก ตะไคร้ ใบมะกรูด มะเขือเทศ หอมแดง กระเทียม
  • ต้นหอมสด ผักหอมเป (ผักชีใบเลื่อย)
  • เกลือ น้ำปลา น้ำปลาร้า ผงชูรส (ตามชอบ)
วิธีการปรุงไก่ซั้วสาวหลง
  1. นำขิง พริก ตะไคร้ ใบมะกรูด หอมแดง กระเทียม ว่านสาวหลงหั่นแว่น มาโขลกให้ละเอียดเป็นเครื่องแกง พักไว้
  2. นำไก่ไปต้มในน้ำเดือดให้สุก (ใส่ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด เกลือ เพื่อลดความคาว)
  3. เมื่อไก่สุกได้ที่ตักออก ปล่อยให้เย็น ฉีกเนื้อไก่ออกเป็นชิ้นๆ เตรียมไว้
  4. นำเครื่องแกงตามข้อ 1 ลงหม้อคั่วด้วยไฟอ่อนๆ ให้มีกลิ่นหอม ตักออกพักไว้
  5. คั่วตะไคร่หั่นแว่น และใบมะกรูดฉีกให้หอม พักไว้
  6. นำน้ำต้มไก่ออกมากรองเอาแต่น้ำ (แยกพวกข่า ตะไคร้ ใบมะกรูดออก) นำขึ้นตั้งไฟให้เดือดอีกครั้ง เพิ่มตะไคร้ ใบมะกรูดคั่วให้หอมลงไป
  7. ใส่เครื่องแกงที่คั่วไว้ลงในน้ำเดือด เติมเนื้อไก่ฉีกลงไป คนให้เข้ากัน
  8. ใส่ใบส้มป่อย มะเขือเทศ ปิดฝาไว้สักครู่
  9. จากนั้นปรุงรสด้วยเกลือเล็กน้อย น้ำปลาร้า น้ำปลา ผงชูรส (ตามชอบ) ชิมให้พอใจ
  10. ปิดท้ายด้วย ต้นหอมหั่นท่อน ผักหอมเป และว่านสาวหลง คนให้เข้ากัน ปิดไฟ พร้อมตักเสิร์ฟความแซ่บ หอม เปรี้ยว เผ็ด ครบรส

ซั่วไก่บ้าน สูตรไทเมืองเลย แซบแท้ๆ แน้ว

ทั้ง 3 เมนูนี้ล้วนเป็นการทำ ซั้ว หรือ ซว้าไก่ เช่นเดียวกัน แต่สูตรการปรุงจะแตกต่างกันที่เครื่องปรุง วิธีการ และรสชาติที่ต่างกันออกไป สามารถเอาไปพลิกแพลงได้ตามวัตถุดิบที่มี และรสชาติที่ต้องการได้เลย ไม่มีผิดมีถูก ถ้าได้ "รสชาติอร่อย" ทุกคนชิมแล้วยิ้มบอกว่า เด็ด แซ่บ นัว เป็นอันใช้ได้

มาถึงอีกเมนูแปลกตั้งแต่ชื่อแล้ว เป็นอาหารที่นอกจากจะมีชื่อแปลกชวนสงสัยแล้ว ที่มาของเมนูก็น่าสนใจไม่แพ้กัน

โหย่ย จังหวัดหนองคาย (2568)

โหย่ย เป็นอาหารพื้นถิ่นของจังหวัดหนองคาย โดยเฉพาะอำเภอศรีเชียงใหม่ ซึ่งเป็นการผสมผสานวัฒนธรรมอาหารเวียดนามกับวัตถุดิบในท้องถิ่น แต่เดิมอาจใช้เนื้อสัตว์ชนิดอื่น (สุนัข) ปัจจุบันนิยมใช้เนื้อไก่, เป็ด หรือหางหมูแทน นำมาตุ๋นกับเครื่องแกงหรือเครื่องพะโล้

yoy nongkai 1

ประวัติความเป็นมาของโหย่ยในหนองคาย

ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าจ้าอยู่หัว ได้มีชาวญวนกลุ่มหนึ่งได้อพยพมาอาศัยอยู่ในพื้นที่อำเภอท่าบ่อในปัจจุบัน ได้นำวัฒนธรรมการ “กินหมา” (รับประทานอาหารที่ปรุงจากเนื้อสุนัข) ซึ่งเชื่อว่าจะให้เกิดความอบอุ่นในฤดูหนาว ทั้งในรูปแบบของเนื้อสุนัขตากแห้ง เนื้อสุนัขย่าง และมีเมนูที่นิยมมากคือ "หย่าเก่ย" หรือเนื้อสุนัขตุ๋นสมุนไพร แต่ด้วยการรับประทานเนื้อสุนัขนั้นขัดกับวัฒนธรรมของคนไทย จึงเป็นที่รังเกียจของชาวบ้าน จนมีคำพูดทำนองเหยียดหยามว่า “พวกแกวกินหมา” แต่ด้วยรสชาติของเนื้อสุนัขตุ๋นสมุนไพรมีรสชาติที่อร่อย ทั้งกลิ่นหอมของสมุนไพรและประโยชน์และสรรพคุณทางยาของสมุนไพร ชาวญวนเหล่านั้นจึงคิดที่จะใช้เนื้อสัตว์ชนิดอื่นที่ไม่เป็นที่รังเกียจของชาวบ้านมาปรับใช้ เช่น เนื้อหมู โดยเฉพาะส่วนที่เป็นขาหมู เนื้อวัว ไก่ เป็ด ปลา โดยปรับปรุงเครื่องปรุง และสมุนไพร ให้เหมาะสมกับเนื้อสัตว์ที่ใช้เป็นวัตถุดิบนั้นๆ

จากการที่มีการเปลี่ยนชนิดของวัตถุดิบจากเนื้อสุนัขมาเป็นเนื้อสัตว์ทั่วไป ชาวบ้านถึงเปิดใจที่จะลองกิน “หย่าเก่ย” ที่คนญวนเหล่านั้นทำให้รับประทาน ด้วยรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ต่างจากอาหารพื้นบ้านอีสานอื่นๆ และจะได้กินเฉพาะในโอกาสพิเศษเช่น งานตรุษเต๊ดเวียด (ตรุษเวียดนาม) หรืองานเฉลิมฉลองอื่นๆ เท่านั้น เพราะขั้นตอนการปรุงค่อนข้างจะยุ่งยาก และใช้เวลาในการปรุงค่อนข้างนาน จึงไม่ค่อยจะทำกันบ่อยๆ แต่ด้วยรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ จึงมีชาวญวนที่เปิดร้านเฝอ (ก๋วยเตี่ยวญวณ) คิดที่ทำเมนู “หย่าเก่ย” จำหน่ายในร้านก๋วยเตี๋ยวโดยใช้เนื้อสัตว์ที่ วัตถุดิบหลัก เป็น ขาหมู ไก่บ้าน เป็ด เนื้อวัว และมีเครื่องเคียงที่ สำคัญคือ ใบชะพลู และข้าวเกรียบงาญวน และมีชาวบ้านที่เป็นคนไทย นำกรรมวิธีการทำหย่าเก่ย มาปรับปรุงรสชาติให้ถูกปากคนไทยยิ่งขึ้น เช่น การเพิ่มความเผ็ดลงไปในหย่าเก่ย และมีการปรุงจำหน่ายทั่วไป เป็นที่นิยมกันในช่วงหนึ่ง การออกเสียง “หย่าเก่ย” ถูกกร่อนคำ ออกเสียงเป็น “โหย่ย” ในปัจจุบัน

yoy kai 2

ซึ่งที่จริงแล้ว "โหย่ย" อาจจะไปพ้องเสียงคล้ายกันกับอาหารเวียดนามที่เรียกว่า "โย่ย" ซึ่งจะหมายถึง ไส้กรอกเลือด ทำมาจากหมูสับ เลือดหมู ผสมกับผักสมุนไพรเช่น ต้นหอม ผักแพว ปรุงรสเล็กน้อย แล้วจึงนำมายัดใส่ในไส้หมู นำมาต้มจนสุก ทานคู่กับน้ำจิ้มที่ผสมน้ำปลา น้ำตาล น้ำมะนาว พริกขี้หนู อร่อยมากกกกก (ดังภาพบน) ต่างจาก เลือดแปลง อธิบายง่ายๆ คือ ลาบหมูสุกราดด้วยเลือดสด ปล่อยให้มันเซทตัวเป็นเยลลี่ รสชาติจะไม่จัดจ้านแบบไทย เพราะเป็นอาหารเวียดนาม เวลาทานบีบมะนาว กินกับถ้่วลิสง ให้รสสัมผัสตัดกันดี ทานตอนที่มันยังเย็นจะไม่มีกลิ่นคาวเลย

วิธีการและขั้นตอนการปรุงโหย่ย

ขั้นตอนการเตรียมเครื่องพริกแกง

  • เครื่องพริกแกงซึ่งประกอบด้วย พริกจินดาแห้งแช่น้ำให้นิ่ม ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด หอมแดง กระเทียม พริกไทย กะปิ โขลกไม่ต้องละเอียดมาก
  • เตรียมเครื่องเทศและเครื่องปรุง ประกอบด้วยเครื่องพะโล้ ผงกะหรี่ งาคั่ว ถั่วลิสงคั่ว ตะไคร้ซอย กระเทียมดองและน้ำกระเทียมดอง น้ำมะขามเปียก น้ำปลา น้ำอ้อย ซีอิ๊วดำหวาน เกลือ

yoy kai 1

ขั้นตอนการเตรียมเนื้อสัตว์

  • ถ้าเป็นขาหมู ให้เลาะขาหมูออกจากกระดูก หั่นเป็นชิ้นโตกว่าคำนิดหน่อย เผื่อเนื้อขาหมูจะหดตัวระหว่างตุ๋น
  • ถ้าเป็นเนื้อไก่ควรใช้เนื้อไก่บ้าน สับเป็นชิ้นพอคำพร้อมกระดูก
  • ถ้าเป็นเนื้อวัวให้ใช้เนื้อน่องลาย หั่นเป็นลูกเต๋า
  • ถ้าเป็นเนื้อปลา ให้หั่นเป็นชิ้นโตๆ
  • แล้วนำไปทอดให้สุกก่อน

ขั้นตอนการปรุง

  • นำพริกแกงที่เตรียมไว้ คลุกเคล้ากับเนื้อสัตว์ ใส่ผงกระหรี่ หมักทิ้งไว้ 30 นาที
  • รวนเนื้อสัตว์ที่หมักไว้แล้วแค่พอสุก ปรุงรสด้วยน้ำปลา เกลือ น้ำอ้อยหรือน้ำตาลปี๊บ น้ำมะขามเปียก ซีอิ๊วดำหวาน กระเทียมดอง และน้ำกระเทียมดอง เติมน้ำนิดหน่อย ป้องกันเครื่องพริกแกงไหม้ คั่วต่อไปจนมีกลิ่นหอม
  • เติมน้ำให้ท่วมเนื้อสัตว์ ใส่เครื่องพะโล้เคี่ยวด้วยไฟกลางค่อนข้างอ่อน ประมาณ 30 นาที
  • ใส่ถั่วลิสงคั่ว และคั่ว เติมน้ำให้ท่วมแล้วเคี่ยวต่อจนกว่าเนื้อสัตว์จะเปื่อยนุ่ม ใช้เวลาตุ๋นประมาณ 2-3 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับเนื้อสัตว์
  • เสร็จแล้วเสริฟพร้อมเครื่องเคียง คือ น้ำจิ้มถั่ว ใบชะพลู ขนมจีน และข้าวเกรียบงาญวน

เคล็ดลับการปรุง

  • หม้อที่ใช้ตุ๋น ควรเป็นหม้อที่หนา ส่งผ่านความร้อนได้ดี เช่น หม้อขาง (หม้อเหล็กญวน) หม้อเหล็ก ไม่ควรใช้หม้ออะลูมิเนียม ถ้าต้องการประหยัดเวลา สามารถใช้หม้ออัดแรงดันได้
  • ไฟที่ใช้ตุ๋น ต้องเป็นไฟกลางค่อนไปทางอ่อน เพราะจะให้เนื้อสัตว์สุกช้าๆ และจะได้ความนุ่มของเนื้อสัตว์ ไม่ควรใส่น้ำเยอะแล้วปล่อยให้สุกทีเดียว ควรเติมน้ำพอท่วม พอน้ำเริ่มจะแห้ง ก็เติมน้ำ ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนเนื้อสัตว์เปื่อยนุ่ม
  • ถ้าใช้เนื้อปลาเป็นวัตถุดิบ ใช้ปรุงพริกแกง ด้วยการผัดกับน้ำมันพอให้หอม แล้วเติมน้ำปรุงรสให้เรียบร้อย จึงเติมเนื้อปลาที่ทอดแล้วลงไป เติมน้ำพอท่วม แล้วตุ๋นให้เหลือน้ำขลุกขลิก

เมนูโหยยเป็ด ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย

เป็นอย่างไรบ้างครับ กับเมนูเด็ดๆ เหล่านี้ ถ้ามีโอกาสผ่านไปยังสถานที่เหล่านี้ก็ลองสั่งมารับประทาน เพื่อหาเมนูสุดยอดในใจคุณ วัฒนธรรมอาหารอีสานนี่หลากหลายจริงๆ ครับ

lilred

backled1

isan word tip

ประตูสู่อีสานบ้านเฮา

IsanGate.com

ปณิธานของเรา :

"ชนชาติที่เป็นอารยะ ต้องมีรากเหง้า และที่มาอันยาวนาน ด้วยภาษาและขนบธรรมเนียมของตนเอง"

: Our Web Site.

krumontree200x75
easyhome banner
ppor 200x75
isangate net
e mail
นโยบายความเป็นส่วนตัว Our Policy

ยินดีต้อนรับสู่ประตูอีสานบ้านเฮา เว็บไซต์ของเรา ใช้คุกกี้ (Cookies) เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น อ่านนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy) และนโยบายคุกกี้ (Cookie Policy)