หลังจากมีความร้อนแรงยาวนานตลอดเดือนเมษายนที่ผ่านมาจนถึงต้นเดือนพฤษภาคม 2567 บ่ายวันที่ 6 พฤษภาคม ก็เกิดพายุฤดูแล้ง ทั้งลม ทั้งฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก ในเขตอำเภอวารินชำราบ อำเภอเมืองอุบลราชธานี มีบ้านเรือนประชาชน สถานที่ราชการอย่างอาคารเรียน หลายแห่งได้รับความเสียหาย รวมทั้งมีผู้เสียชีวิตด้วยจากเหตุหลังคาบ้านถล่มลงมาทับ (ขอแสดงความเสียใจด้วยครับ) เกิดมีต้นไม้ใหญ่ล้มทับสายไฟฟ้าแรงสูงเป็นบริเวณกว้าง ทำให้กระแสไฟฟ้าดับไปในหลายพื้นที่ (รวมทั้งกระท่อมน้อยของอาวทิดหมูด้วยครับ) เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายออกมาช่วยกันแก้ไขสถานการณ์อยู่ตลอดคืนเลยทีเดียว
วันนี้ (8 พ.ค.) เราน่าจะกลับไปสู่ความร้อนอีกระลอกแล้วครับ จากภาพที่ทางกรมอุตุนิยมวิทยาได้เผยแพร่ออกมา อีสานบ้านเฮา "ขาวเปิ่นเวิ่น" แล้ว คือสิบ่มีฝนไปอีกหลายมื้ออยู่ ผู้ข้ากะสิได้ปีนหลังคากระท่อมน้อยซ่อมแซมไพหญ้าที่เปิดเปิงไปหลายแผ่น ให้กลับคืนมากันแดดกันฝนได้คือเก่าซั่นแหล่ว บ่เสียหายหลายปานใด๋ย้อนว่าอยู่ที่ต่ำลมพัดผ่านไปได้สะดวกบ่ได้ปะทะตรงๆ ส่วนบ้านท่านเว็บมาดเซ่อเห็นว่าไฟฟ้าดับไปเกือบ 2 มื้อเลย กะบ่ได้ออกมาเขียนข่าวอัพเดท (เห็นว่า น้ำประปากะบ่ไหลย้อนว่าไฟฟ้าแถวโรงสูบน้ำโพธิ์มูลต้นยางใหญ่หักทับสายไฟแรงสูง เดือดร้อนกันไปเบิดสู่คน) ผู้ข้ากะเลยต้องมาปั่นแทนมื้อนี้
คือสิหายสงสัยล่ะน้อว่า ฝนกับลมเป็นหยังจั่งมายามนี้ พระอาทิตย์เพิ่นหลูโตนชาวบ้านที่พากันฮ้อนหลาย จนผู้ลางคนเอาปืนแก๊ปมาเล็งยิงพระอาทิตย์หวังว่าสิให้มอดดับคลายความฮ้อน เพิ่นเลยไปสะกิดให้พระพิรุณเสิ่นลงมาหดน้ำจักหน่อยแหน่ พระพิรุณกะฟ้าวโพดเหาะมาอย่างไวจนอุ้มเอาทั้งลมทั้งฝนมาใส่พี่น้องซั่นแหล่ว อันนี้กะแม่นสอยให้คลายทุกข์เด้อขอรับ อย่าสิทุกข์โศกหลายมันผ่านมาแล้ว สู้ต่อไป ตอนนี้ภัยพิบัติมาสู่ทาง ข้าวของกะแพง ไฟฟ้ากะแพง ถืกอยู่อย่างเดียวคือ "ยาบ้า" ได้ข่าวว่ารัฐบาลเพิ่นสิส่อย ด้วยการเอาข้าวสารราคาถืกๆ มาแจกจ่ายให้ได้กิน ข้าวสารเก่าเก็บ 10 ปี ตั้งแต่สมัยจำนำข้าวจนเจ๊งพุ้นนะ เพิ่นคือสิคึดว่า ประชาชนพวกนี้โง่กินหญ้าล่ะตี้เนาะ เอาสมองส่วนใด๋คิดน้อ เลือกผิดเลือกใหม่ได้เด้อพี่น้อง เจ็บเส้นเว้ามากรูละสูนแหม่...
คุณกิตติค่ะ "ถ้าแยมไม่ได้มารายข่าวพรุ่งนี้ แสดงว่าแยมคงท้องเสียแอดมิดเข้าโรงพยาบาลเพราะข้าว 10 ปี คำนี้ล่ะคะ"