ควันตลบงานแห่เทียน

ผ่านพ้นไปแล้วครับ งานประเพณีแห่เทียนพรรษา อุบลราชธานี ประจำปี 2568 เป็นปีที่ 124 แห่งฮีตฮอยประเพณีชาวอุบลราชธานีที่สืบต่อกันมาเนิ่นนาน แต่ก็มีควันหลงติดตามมาอย่างต่อเนื่อง แบบพร้อมกันโดยมิได้นัดหมายจากเพจข่าวประชาสัมพันธ์ของฅนอุบลราชธานี ซึ่งมีทั้งความเห็นอันหลากหลายจากนักท่องเที่ยวที่มาจากทุกสารทิศ ทั้งในและนอกประเทศ รวมทั้งเสียงบ่น (ปนด่า) อันสะท้อนความเจ็บปวดจากคนในท้องที่อุบลราชธานีเอง มีหลากหลายแง่มุมที่ไม่ควรมองข้าม ใน 2 วันที่ผ่านผมติดตามไล่อ่านคอมเมนต์ต่างๆ ที่ได้โพสต์สอบถามกันมากมายหลายเพจ นำมาสรุปได้เป็นข้อหลักๆ ดังนี้

1. การประชาสัมพันธ์อ่อนมากปีนี้ (จังหวัดแทบไม่มีแอคชั่นเลย)
2. การจราจรและที่จอดรถสำหรับนักท่องเที่ยว (ติดหนึบ จอดไกล ไม่สะดวก ราคาโหด ไม่มีบริการรับส่งที่เพียงพอ)
3. สุขาอยู่หนใด (ความระทมทุกข์เมื่อถูกจู่โจมสุดจะทนอดกลั้น)
4. ขยะที่ยังขาดการจัดการที่ดี (ปล่อยให้ส่งกลิ่นรบกวนงาน รบกวนสายตามาก)
5. จุดชมการแสดงที่ไม่ได้ชมการแสดง (มีการรบกวนมากมาย)
6. ไม่ตรงต่อเวลาจนน่าอับอายนักท่องเที่ยว

จัดงานใหญ่ใจต้องพร้อม ปัญหามีก็ต้องแก้ไข

ปัญหาเหล่านี้ไม่ใช่เพิ่งจะมีมาในปีนี้ มันมีมานานหลายปี แก้ไขปัญหากันมาตลอด สำเร็จบ้าง ไม่สำเร็จบ้าง แต่ทั้งหลายทั้งปวงนั้น "เจ้าภาพ" หรือ "แม่งาน" ต้องเตรียมตัววางแผนแก้ไขปัญหาให้เกิดน้อยที่สุด ถ้าไม่มีเลยยิ่งดี (แต่ก็รู้แหละมันเป็นไปไม่ได้) ปัญหาต่างๆ เหล่านี้ผมจะนำมาขยายให้เห็นภาพและเสนอแนะแนวทางแก้ไข (ท่านใดที่เห็นต่างก็ช่วยแนะนำ เสริมกันมานะครับ ปีที่ 125 เราจะได้เห็นปัญหาลดลง) ท่านใดจะนำเอาไปเสนอสู่ที่ประชุมสรุปงานของเจ้าภาพก็ยินดีมากๆ ครับ (ส่วนใหญ่องค์กรราชการมักจะประชุมเตรียมการกันแหละ พองานเสร็จก็ปล่อยให้ลูกน้องสรุป เก็บเข้าแฟ้มจบ ไม่มีการพูดถึงปัญหาที่เกิดและวิธีการแก้ไขกันเลย)

ชาวอุบลราชธานีขอกราบขอบพระคุณ พี่น้องชาวสุราษฎร์ธานี ที่ส่ง "เรือพนมพระ" และขบวนการแสดงสวยงาม

1. การประชาสัมพันธ์ที่อ่อนแอมาก

เอาง่ายๆ แค่ "ป้ายประชาสัมพันธ์งาน" ในจุดที่สำคัญๆ ของจังหวัด มีแค่ป้ายง่อยๆ หน้าสนามบินนานาชาติ เห็นได้ชัดว่านี่แพ้ "งานทอผ้าเป็นสายบุญ จุลกฐิน" ของหลวงพ่อวัดไชยมงคลอีก ทุกปีหลวงพ่อทำป้ายติดในจุดสำคัญของจังหวัด ด่านหน้าเข้าเมืองอุบลฯ ถนนสายรอบเมืองทุกเส้นทาง ทั้งๆ ที่ยุคนี้มันยุค 5G มีสื่อออนไลน์มากมายก็ไม่เรียกใช้งาน คงบอกมีเพจประชาสัมพันธ์จังหวัดแล้วไง? หรือมีเพจประชาสัมพันธ์แห่เทียนอุบลราชธานี อีกล่ะ อยากหัวคักเด้อพี่น้อง "เพจราชการ" ทำโดยข้าราชการนั้น หาความทุ่มเทไม่ได้เลยท่าน แค่หน้าปกเพจยังเป็นของปีที่แล้วอยู่เลย ทำไมไม่สร้างเว็บไซต์เพื่อการนี้โดยตรง เพื่อ

• นำเสนอประวัติอันยาวนานของประเพณีแห่เทียนพรรษาของจังหวัดอุบลราชธานี
• ให้ข้อมูลรายละเอียดของการจัดงานประเพณีแห่เทียนพรรษา
  - ชนิด/ประเภทของต้นเทียน ต้นเทียนโบราณ, ต้นเทียนแบบติดพิมพ์, ต้นเทียนแบบแกะสลัก
  - คุ้มวัด/ชุมชนคนทำต้นเทียน การเยือนชุมชนเหล่านี้เริ่มเมื่อใด ช่วงไหนจะได้ชมกิจกรรมดีที่สุด ชุมชนใดไปได้สะดวก
  - สูจิบัตรการจัดงาน
• แผนผังสถานที่จัดงาน สถานที่ท่องเที่ยวที่เกี่ยวเนื่อง ที่พัก/ร้านอาหาร ฯลฯ

ทำไมต้องเป็นเว็บไซต์? ก็เพราะมันค้นหาง่ายกว่า มีชื่อที่ได้รับการจดทะเบียนชัดเจน มีเมนูหรือลิงก์เชื่อมโยงที่จัดหมวดหมู่ ค้นหา ดูรายละเอียดได้ง่ายกว่า เพจเฟซบุ๊ค ที่เมื่อมีการโพสต์ใหม่ข้อมูลเดิมจะเลือนหายไปอยู่ล่างสุด ค้นหาไม่สะดวก คนอุบลฯ เอกชน ที่มีความสามารถด้านนี้เยอะแยะ ขอให้มีเจ้าภาพจัดการเป็นคณะทำงาน สามารถทำได้หลายภาษา สะดวกสำหรับนักท่องเที่ยว และที่หายไปคือ Mobile Application (แอพในมือถือ) ของงานแห่เทียน ที่ช่วยนักท่องเที่ยวได้มาก มีทั้งภาษาไทย ภาษาอังกฤษและอื่นๆ ได้จะดีมาก นี่แหละคือคู่มือฉบับพกพาชั้นดีเลย บอกรายละเอียดทั้งแผนที่ การเดินทาง ที่พัก ร้านอาหาร และสามารถใช้เป็นช่องทางให้นักท่องเที่ยวได้ให้ข้อเสนอแนะ ความต้องการ โหวตกิจกรรมต่างๆ ได้ ปีนี้ไม่มีเลย

ในปีก่อนๆ จังหวัดอุบลราชธานีของเราทำถึงในเรื่องการประชาสัมพันธ์ มีการโปรโมทผ่านช่องทางสถานีโทรทัศน์ต่างๆ ก่อนการจัดงาน มีอีเวนต์เฉพาะจัดในศูนย์การค้าดังในกรุงเทพฯ ร่วมกับการท่องเที่ยว หรือธุรกิจอื่นๆ ผู้ว่าฯ ไปรับเทียนพระราชทานก็ถือโอกาสไปออกรายการพูดคุยกับช่องทีวีดังได้ ให้ทีมประชาสัมพันธ์จังหวัดทำคลิปโปรโมท รายละเอียดงาน สั้นๆ กระชับ นำไปเสริม Insert ออกรายการสิครับ จริงๆ แล้วถ้าประสานงานล่วงหน้าทางสถานีเขาก็มี Footage ปีก่อนๆ มาเสริมได้อยู่แล้ว ปีหน้า 2569 ต้องทำนะครับ เอาให้ดังระเบิดเถิดเทิงกว่านี้

2. จราจรจลาจล

งานใหญ่ๆ มันต้องมีแน่ แต่บรรเทาได้นะขอรับ เราต้องมีหัวเรือมืออาชีพครับ ต้องมีผู้บัญชาการงานนี้เฉพาะ เพื่อให้เกิดการประสานกับทุกหน่วยที่เกี่ยวข้อง ตำรวจจราจร ฝ่ายปกครอง เทศบาลนครอุบลราชธานี องค์การบริหารส่วนจังหวัด สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยว ภัตตาคาร/ร้านอาหาร โรงแรมที่พัก พูดคุยกันถึงรายละเอียดวัน เวลา กำหนดการจัดงานที่แน่ชัด เวลาไหนจะเกิดอะไรขึ้น จะต้องปิดการจราจรในส่วนไหน มีทางเลี่ยงทางเลือกให้ประชาชนอย่างไร จะเปิดการสัญจรเวลาใดถึงเวลาใด ประสานขอความร่วมมือกับประชาชน ห้างร้าน ธุรกิจ ที่จะได้รับผลกระทบในช่วงเวลานั้นๆ ประกาศให้ทราบทั่วกันล่วงหน้าก่อนงาน ระหว่างงานดำเนินการ (ทำไมงานใน กทม. เขาปิดถนน อำนวยความสะดวกได้ ไปศึกษาหาแนวทางแก้ไขสิครับ)

ฟังแล้วเจ็บจี๊ด! ที่คนอุบลฯ บอกว่า "เวลาตั้งด่านนับร้อยที่ ร้อยคน งานใหญ่อุบลฯ ประชาชนลงมาโบกรถแก้ไขปัญหาจราจรกันเอง" อันนี้ก็ฝากตะโกนดังๆ ไปยังท่านที่มีส่วนรับผิดชอบด้วย คือถ้ากำหนดรายละเอียดกันตั้งแต่ต้น มันก็ไม่ยุ่งหรอกครับ กำลังคนมี ทั้ง ตำรวจ อส. ทหาร เราประสานเขาแค่ไหนกัน?

ปัญหาอีกส่วนหนึ่งมาจาก ไม่มีการกำหนดสถานที่จอดรถรองรับนักท่องเที่ยวและประชาชน ให้เพียงพอ และมีบริการรับ-ส่ง (Shuttle bus) จากที่จอดรถมายังบริเวณจอดงาน เรามีพื้นที่สำหรับการนี้อยู่หลายจุดนะครับ ถ้าวางแผนกันดีๆ ทั้งฝั่งอำเภอวารินชำราบ และอำเภอเมืองอุบลราชธานี อย่าง สนามทุ่งคำน้ำแซบ (เทศบาลเมืองวาริน ใกล้สถานีรถไฟ) ห้วยวังนอง สนามในมหาวิยาลัยราชภัฏ วิทยาลัยเทคนิค โรงเรียนนารีนุกูล โรงเรียนเบ็ญจะมะมหาราช และอื่นๆ ขอใช้สถานที่ จัดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกในการจอด รักษาความปลอดภัย จะเก็บค่าบริการเล็กน้อยเพื่อให้ค่าตอบแทนสถานที่และเจ้าหน้าที่ก็ได้ เพราะที่จอดตามซอยย่อยในเมืองมีการเรียกเก็บแพงระดับ 100-250 บาท (สรุปมาจากเสียงบ่นของนักท่องเที่ยว)

ผู้จัดงาน คณะกรรมการจัดงาน ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องและมีหน้าที่ตัดสินใจ หรือให้การสนับสนุน ร่วมมือในด้านต่างๆ ที่ดูแลในส่วนของพื้นที่ การจราจร ฯลฯ ควรมีการแสดงสัญลักษณ์ที่ชัดเจน นักท่องเที่ยวหรือบุคคลทั่วไปที่ต้องการความช่วยเหลือ แจ้ง บอก หรือขอคำแนะนำ จะสามารถเข้าถึงได้ง่ายยิ่งขึ้น หรือเพิ่ม “จุดบริการประชาชน” ในจุดที่มีความเสี่ยง มีจำนวนนักท่องเที่ยวมาก ส่วนนี้ผมขอเสริมให้มีรถพยาบาล หรือรถกู้ชีพตามจุดต่างๆ ด้วยนะครับ สังเกตุจากช่วงอายุของนักท่องเที่ยว ผมเห็นว่ามีผู้สูงอายุเป็นจำนวนมากที่มาร่วมงานในทุกๆ ปี

ประชาสัมพันธ์ในช่วงก่อน ระหว่าง หลัง การจัดงานให้ชัดเจน โดยผู้ที่รับผิดชอบและเกี่ยวข้องโดยตรง เพื่อได้ข้อมูลที่ถูกต้องแม่นยำ เช่น การแจ้งปิด-เปิด พื้นผิวจราจร สภาพการจราจร โดย สภ.เมืองอุบลฯ การแจ้งรายละเอียดกิจกรรม ตารางกิจกรรม โดยเทศบาลนครอุบลฯ หรือ อบจ. ผ่านในทุกช่องทางที่มี ขอความร่วมมือสถานที่ทั้งภาครัฐและเอกชน บริเวณที่ห่างจากตัวงาน ทำจุดจอดรถ จัดให้มีจุดพักคอย จัดหารถรับ-ส่ง รถร่วมระหว่างจุดจอดรถและตัวงาน หรือประสานขอความร่วมมือกลุ่มจิตอาสา รถกระบะ จักรยานยนต์ วิ่งรับ-ส่ง เพื่อจัดการปัญหาการจราจรรอบงาน (ปีนี้ พบว่า มีน้องๆ จักรยานยนต์จิตอาสา จำนวนประมาณ 20 คัน ที่รวมตัวกันอาสาออกมาทำหน้าที่ด้วยใจไม่คิดค่าตอบแทน แต่ขาดเจ้าภาพและผู้ประสานงาน ถ้ามีผมว่าน่าจะได้จำนวนมากกว่านี้ ทั้งจักรยานยนต์ กระบะ รถโดยสารสองแถว) และเมื่อประชาสัมพันธ์ดีๆ ผมว่าจะมีคนมีน้ำใจสนับสนุนน้องๆ เหล่านี้ อาจะเป็นค่าน้ำมัน อาหารกล่องและน้ำดื่มให้น้องๆ ได้

3. สุขาอยู่หนใด มีน้อยและไกลจัง

ปัญหาใหญ่ระดับชาตินะขอรับเรื่อง "ห้องสุขา" นี่ นักท่องเที่ยวพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า "ต้องอดทนอดกลั้นกันสุดชีวิต" มีน้อยไม่ว่า แต่ไม่ทราบว่าจะไปตรงไหนดีนี่ต่างหาก คงต้องถามไปทางเทศบาลนครอุบลราชธานี แหละครับจัดหารถสุขาเคลื่อนที่ ทำห้องน้ำสาธารณะเพิ่มเติมในบริเวณใกล้ๆ ดูแลรักษาความสะอาดให้ดีได้ไหม? หรือจะเปิดเป็นบางช่วงเวลาที่มีงานกิจกรรมใหญ่ๆ ไม่ใช่แต่งานแห่เทียนดอกครับ ตรงนี้มีงานประจำบ่อยๆ อยู่แล้ว จะมีการเก็บค่าบำรุงบ้างเพื่อใช้เป็นดูแลรักษาบ้างก็คงไม่ว่ากันดอกนะ ในวินาทีที่ข้าศึกโจมตีนี่ยอมครับยอม

ห้องน้ำ รถสุขาเคลื่อนที่ ยังไม่เพียงพอกับจำนวนนักท่องเที่ยวที่มาร่วมงานครับ

นั่นคือเสียงบ่นเบาๆ จากนักท่องเที่ยวปีนี้ หรือจะขอความร่วมมือกับร้านค้า เอกชน หน่วยราชการในบริเวณใกล้เคียง ขอใช้บริการเพื่อการนี้จะได้ไหม? แค่ความสะดวกเล็กน้อยนี้ นักท่องเที่ยวจะจดจำอีกนานนะครับ

4. การรักษความสะอาดรอบๆ บริเวณจัดงาน

มีงานใหญ่ มีคนมาเที่ยวงานเยอะ ปัญหาขยะมันก็มีตามมาแน่นอนอยู่แล้ว ทราบปัญหาก็ต้องแก้ไข แต่การแก้ไขมันต้องทำทันท่วงที มีระยะการเข้าจัดเก็บที่ถี่ขึ้น ไม่ยึดเวลาที่เคยเก็บปกติ ข้อนี้ เทศบาลนครอุบลฯ ต้องเป็นเจ้าภาพหลักครับ งานนี้ก็มีเพียงไม่กี่วัน ช่วงพีคๆ คือ วันรวมเทียน กับวันแห่เทียน ที่ต้องจัดการเร็วและถี่ยิบจากปริมาณคนที่มามากขึ้น ต้องทำความสะอาดมากขึ้นครับ

ข้อสังเกต : ไม่ควรนำถังขยะไปตั้งใกล้จุดตั้งโชว์ต้นเทียนรอบทุ่งศรีเมืองโดยเด็ดขาด ท่านไม่จัดเก็บบ่อยๆ ไม่มีถังขยะแยกชนิด เกิดการล้นถังออกมาเป็นที่อุจาดตาของนักท่องเที่ยวที่มาเดินชมต้นเทียน บางถังก็มีน้ำหกเลอะเทอะส่งกลิ่นออกมาด้วย (ปัญหามีทุกปีนะขอรับ) จากประสบการณ์ที่ไปถ่ายภาพต้นเทียนตอนค่อนรุ่งก่อนจะถึงวันแห่เทียน ส่วนในช่วงกลางคืนหลังแห่เทียนภาคกลางคืน ผ่านไปตรงแยกอุบลพลาซ่ามีขยะกระจายจนคล้ายจะเป็นวงเวียนให้ขับรถอ้อมได้แล้ว น่าละอายมากครับ

การจัดการขยะ ยังไม่ทั่วถึงทั้งจุดวางถังขยะและการจัดการภายในบริเวณงาน ทั้งนี้ผู้ค้าและร้านค้าต่างๆ ควรให้ความสำคัญในเรื่องนี้ร่วมกับทางผู้จัดงาน มีถุงดำเตรียมไว้ก็ดี ผู้จัดงานมีทีมกำจัดขยะช่วยห้างร้านด้วยก็ดีครับ

- เสียงบ่นจากนักท่องเที่ยว

5. จุดชมการแสดงที่ไม่ได้ชมการแสดง

หลายคนไม่เข้าใจครับ เขาไม่รำให้ดูเหรอ? เอางี้ดีกว่า ดูที่ภาพข้างล่างนี้นะครับ ผมจะเหลา เอ้ย เล่าให้ฟังครับ จากประสบการณ์ตรงของเพื่อนรักผมเองที่เดินทางมาร่วมงานประเพณีแห่เทียนเข้าพรรษาปีนี้ ด้วยความเชื่อมั่นในความยิ่งใหญ่สมคำร่ำลือ ตามการบอกเล่าเป่าหูของผมเองตั้งแต่เมื่อหลายปีก่อน และสำทับอีกทีวันสิ้นปีที่แล้วว่า "เอ็งต้องมาให้ดูให้ได้สักครั้งก่อนตุย พลาดแล้วเสียใจกรูช่วยไม่ได้นะ"

 

จากภาพ จะเห็นว่าในส่วนปะรำพิธีเปิดจะมีอัฒจันทร์ประกบสองข้างทั้งสองฝั่ง จะด้วยความผิดพลาดอันใดไม่เอ่ยถึงแล้วกัน ผมจองที่นั่งไว้คิดว่าน่าจะตรงกลางๆ แหละ แต่พอถึงวันแห่ดันไปได้ตรงด้านซ้ายมือไกลๆ โน่น (วงกลมสีเหลือง) พอนึกภาพออกนะครับ ตรงนั้นเห็นชัดเจนแหละทั้งต้นเทียน ขบวนนางรำ ครบๆ แต่ไม่ได้ดูการแสดงรำจากขบวนใดๆ เลย เพราะเขาจะมาเริ่มรำตรงต่อหน้าประธานในพิธี ทุกขบวนเดินผ่านเราไปหมด น้อยใจนะ (ผมนี่แหละ ทั้งน้อยใจ เสียใจที่ทำให้เพื่อนและครอบครัวกลุ่มใหญ่ผิดหวังมากๆ) ไม่มีใครผิดล่ะมั๊ง เนาะ! ผมก็ว่างั้น

งานแข่งขันโอลิมปิกครั้งที่ผ่านมาจัดที่ริมฝั่งแม่น้ำเทมส์ ก็มีผู้คนจำนวนมากที่มาจองที่นั่งอัฒจันทร์ริมน้ำเฝ้ารอในพิธีเปิด ฝนตก และก็อยู่ในจุดที่แค่ขบวนนักกีฬาผ่านหน้าไปเช่นกัน ไม่ได้ชมการแสดงพิธีเปิดจากศิลปินรับเชิญต่างๆ เหมือนกัน (เห็นไหม? งานใหญ่ขนาดนั้น นี่งานเล็กกว่า จะมาบ่นทำไม?) แต่ๆ.. เขามีจอ LED ยักษ์ให้ชมเป็นระยะๆ นะครับ เทคโนโลยีนี้บ้านเราก็มี ราคาถูกด้วย จัดสักหน่อยในปีหน้าได้ไหม? ถ่ายทอดสดออนไลน์ก็มีแล้ว ทางบ้านได้ดูชัดแจ๋ว แต่คนที่นั่งบนอัฒจันทร์ในงานแท้ๆ กลับมองไม่เห็นไม่ชื่นใจเลย

นอกจากนั้น ผู้ที่นั่งอยู่ในตำแหน่งอุบาทว์ (ตรงที่วงสี่เหลี่ยมสีเหลืองไว้) นั่นก็ช่างด้อยประสบการณ์ของการจัดการระบบเสียงมากเลย เราสามารถวางลำโพงไว้ใต้อัฒจันทร์ได้ หรือจะใช้ระบบลำโพงอาเรย์แขวนบนเสาเหล็ก ที่ไม่บังสายตาท่านผู้ชมด้วยจะดีมากๆ รวมทั้งการเดินพล่านเกะกะของเหล่าฟลูเอนเซอร์ทั้งหลาย (ที่ไม่มีการจัดการลงทะเบียน กำหนดจุดถ่ายทำเป็นที่เป็นทาง) นอกจากจะทำให้การถ่ายทอดสดขาดความสวยงามเป็นระเบียบแล้ว ยังยนบังผู้ชม กีดขวางผู้ฟ้อนรำในขบวนด้วย ไม่เฉพาะบริเวณนี้เท่านั้นนะ จุดอื่นๆ เละกว่านี้มาก ถ้าดูในคลิปตรงจุดตลาดน้อยและอื่นๆ จะมีเสียงของทีมผู้ดูแลขบวนต้องประกาศขอร้องให้ขยับออกให้ห่างจากขบวนรำ ไม่มีการกั้นแนวสำหรับขบวนทำให้ลำบากในการเคลื่อนขบวนมาก

ขอโทษนะคะ 4 สแตนจากทางเข้า ไม่ได้ดูนางรำเลยค่ะ เห็นแต่คนยืนรอขบวน เป็นทางผ่านอย่างเดียว คนข้างๆ มากจากสิงคโปร์ คือ ไม่ได้ดูอะไรเลย สงสารนางมาก กับอีกคนบอกคราวก่อน นั่งสแตนเลย ประธานไป ก็ไม่ได้ดูนางรำ เพราะจบซะก่อน
แต่พอมองไปฝั่ง VIP นั่งเย็นสบาย แดด ไม่ส่อง แต่ #แขกไม่มา เก้าอี้โล่งเป็นร้อย ค่ะ #จัดงานให้ใคร?

- เสียงบ่นดังๆ จากคนที่ประสบชะตากรรมเดียวกัน

6. การตรงต่อเวลา

เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่กว่าทั้ง 5 ข้อข้างต้นด้วยซ้ำ เป็นข้อผิดพลาดที่ดังกระหึ่มทันที หลังจบแห่เทียนภาคกลางคืนวันแรก และเรื่อยมาจนถึงวันนี้ เรามีปัญหาใหญ่ระดับชาติจาก "นาฬิกายืมเพื่อน" กระอักกระอ่วนมาหลายปี ยังมาเจอประธานจัดงานที่มาไม่ตรงเวลาเพราะ มีนาฬิกา(ตาย) หรือไม่มีนาฬิกา ผมไม่ทราบได้ งานที่ประชาคมชาวอุบลราชธานีมาแรมเดือนต้องมาพังทลาย เสื่อมเสียความสง่างามได้ง่ายๆ เช่นนี้

ประเทศไทยเรานี่เต็มไปด้วย "พิธีการ" ที่ไม่ค่อยมีประโยชน์ เสียเวลาโดยใช่เหตุ (โดยเฉพาะผู้เป็นประธานที่ไม่มี Background ในงานนั้นๆ มาก่อน มาก้มหน้าก้มตาอ่านตามที่เขาเขียนมายาวเหยียดอีก) เอาแค่ "ขอขอบคุณทุกท่านที่มีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมนี้ ข้าพเจ้าขอเปิดงานนะบัดนี้" ก็พอมั๊ง นักท่องเที่ยวต่างชาติเขาไม่อินกับพิธีการของไทยเราเลยขอบอก พิธีเปิดมีได้แต่อย่าเยิ่นเย้อมากนัก จัดเปิดเช้าไปแล้วตอนเย็นก็ไม่ต้องมี มันกระทบกับขั้นตอนอื่นๆ ในเวลาถัดไปจนทำให้ระบบที่วางไว้รวนเรไปหมด

นักท่องเที่ยวเขาอุตสาห์มารอก่อนเวลาแสดงเริ่มต้นตั้งแต่ 16.00 น. งานเริ่ม 18.30 น. ตั้งใจชมการแสดง ขบวนฟ้อนรำ ประกอบแสงสี สวยงาม ไม่ได้มารอดูประธานเปิดงานที่มาช้าร่วม 2 ชั่วโมง มาช้า มาไม่ทัน ก็ให้ใครทำหน้าที่แทนก็ได้ เห็นคนประสานงานถือ ว. สวนสนามอยู่หน้าประตูนั่นนับสิบ ยืนคุยถามกันให้แน่ แสดงเลยได้ไหม? นทท. เซ็งเป็ดมากๆๆๆ จ้า!

- เสียงบ่นดังๆ จากคนชมการแสดงภาคกลางคืนวันแรก

ขอสรุปส่งท้ายเสริมปัญหาเล็กๆ น้อยๆ ที่ต้องแก้ไขในปีหน้านะครับ 

• เพิ่มไฟส่องสว่างบริเวณจุดที่ตั้งโชว์เทียนให้พอเพียง ช่วยเสริมความงามต้นเทียนให้โดดเด่น และควรมีไฟประดับตกแต่ง ตามต้นไม้ เสาไฟ เพื่อความสวยงามให้มากยิ่งขึ้นครับ เนื่องจากถือเป็นอีกจุดที่มีนักท่องเที่ยวถ่ายภาพ เดินชมเป็นจำนวนมาก (สองปีมานี้ ยังดีที่มีงาน Vijit อุบลราชธานีมาสร้างสีสันให้เด่นยิ่งขึ้น)
• จุดพักคอยของขบวนเทียน ก่อนเข้าขบวนแห่ภาคกลางวัน/กลางคืน อยากให้มีจุดบริการน้ำดื่ม จะมาจากทางผู้จัดเอง หรือภาคเอกชน ประชาชนจิตอาสา เนื่องจากต้องตั้งขบวนรอเป็นเวลานานมาก
• “การควบคุมคุณภาพ” ของร้านค้า ร้านอาหาร ที่มาขายสินค้าในบริเวณการจัดงานครับ อย่าทำแบบขอไปที อาหารเครื่องดื่มรสชาติไม่ดี ทำให้จบๆ ไป คิดว่ามากินครั้งเดียว ขายเอาเงินทีเดียว ส่วนตัวผมบอกเลยว่า จะส่งผลเสียระยะยาว คัดเลือก คัดกรอง ร้านคุณภาพที่มาจำหน่ายในงาน มีป้ายมีสติ๊กเกอร์รับรองคุณภาพ ที่มองเห็นได้ชัดเจนออกให้โดยส่วนราชการ ติดหน้าร้าน เพิ่มความมั่นใจให้นักท่องเที่ยวครับ
• อัตราค่าที่พัก รู้สึกราคากระโดดจนน่าเกลียดไปนะครับ บางแห่งราคากระโดดไปถึง 100% เข้าใจล่ะว่า นี่มันนาทีทอง High Season แต่ก็อย่าให้เกินไปนักสิครับ

งานประเพณีที่เราสืบต่อมายาวนานนับร้อยปีเช่นนี้ งานใหญ่ขึ้น มีกิจกรรมความหลากหลาย นักท่องเที่ยวมากมายขึ้น ถ้าเราจะทำต่อไปขอให้มี ผู้จัดการงาน (Organizer) แบบมืออาชีพ ได้ไหม คำว่า "ผู้จัดการงาน" ในที่นี้ คือ มีผู้บัญชาการที่เป็นแม่งานหลักทุ่มเทให้กับงานนี้ เป็นแม่งานที่มองภาพกว้าง ตรวจสอบ แก้ไข สั่งการ ประสานงาน อำนวยความสะดวก กับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง หน่วยราชการ เอกชน คุ้มวัด สถานศึกษาต่างๆ ได้จริง จะเป็นผู้ใดที่ได้รับมอบหมายก็ได้ ใช้ระบบแสง เสียง ระบบการถ่ายทอดสดที่เป็นมืออาชีพ ณ หลายปีที่ผ่านมานี้ ไม่ผ่านเกณฑ์ ทั้งเรื่องภาพ (ที่ไม่มีมุมที่หลากหลาย) เรื่องเสียงที่ขาดๆ หายๆ ความดังไม่สม่ำเสมอ การจัดการประชาสัมพันธ์ที่อ่อนแอปวกเปียกมาก พวกเรา (ขอเป็นตัวแทนบอกจากใจกลุ่มเพจชาวอุบลฯ) ได้ทุ่มเททำการเชิญชวนนักท่องเที่ยวทุกถิ่นที่ในการประชาสัมพันธ์เต็มกำลัง แม้จะมีบางคนมองไม่เห็นค่าพวกเรานัก แต่เราก็เต็มที่มาทุกปีเพื่อบ้านเกิดของเรา

ด้วยความเคารพจากใจ ปีหน้าขอให้ยิ่งใหญ่กว่าเดิม

ทิดหมู มักหม่วน
13 กรกฎาคม 2568