99/169 Sarin7 UBN 34190 081 878 3521 This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.
  • ธรรมะในดินแดนอีสาน

    พุทธศาสนา : งดงามในดินแดนอีสาน

  • เทียนพรรษา

    งานประเพณีแห่เทียนพรรษาอุบลราชธานี

  • เที่ยวนครพนม

    เที่ยวนครพนมชมความงดงามริมแม่น้ำโขง

  • ธรรมชาติงดงามบนภูกระดึง

    ความสุขที่คุณเดินได้เพื่อพิชิตภูกระดึง

  • สามพันโบก

    รุ่งอรุณ ณ สามพันโบก มหัศจรรย์กลางลำน้ำโขง

  • รุ่งอรุณ ณ ผาแต้ม

    ตะวันขึ้นก่อนใครในสยามประเทศ ผาแต้ม

  • เขาใหญ่

    ไปชื่นชมธรรมชาติมรดกโลกที่เขาใหญ่กัน

  • ผามออีแดง

    ปลายฝนต้นหนาวไปชมทะเลหมอก ณ ผามออีแดง

  • ม่วนซื่นโฮแซวแนวอีสาน

    อีสานมีทั้งธรรมชาติสวยงาม ผลไม้ขึ้นชื่อ งานประเพณีแปลกตา

  • ตะวันตกดิน

    มุมสงบใจให้ดื่มด่ำยามพลบค่ำสิ้นแสงสุรีย์

: Our Sponsor

adv200x300 2

: Our Fanpage

: My Web Site

krumontree200x75
easyhome banner
ppor 200x75
isangate net
e mail

การฟ้อนกลองตุ้ม

fon klong toom

fon klong toom 5การฟ้อนกลองตุ้ม เป็นศิลปะการฟ้อนรำพื้นบ้านที่พบเห็นทั่วไปในภาคอีสาน เขตลุ่มน้ำมูล เป็นศิลปะการแสดงพื้นบ้านที่นิยมฟ้อนในงานเทศกาลบุญบั้งไฟ เป็นการละเล่นอย่างหนึ่งที่มีความสำคัญต่อวิถีวัฒนธรรมท้องถิ่น และพบมากที่สุดในกลุ่มสังคมวัฒนธรรมแบบลาว การฟ้อนกลองตุ้ม จึงไม่ได้เป็นเพียงแค่การฟ้อนเพื่อความสนุกสาน แต่ยังเกี่ยวข้องกับความเชื่อของท้องถิ่น ที่สะท้อนภาพสังคมได้ในหลายมิติ โดยชาวบ้านถือว่าการฟ้อนกลองตุ้มเป็นการฟ้อนรำ หรือการร่ายรำที่มีความศักดิ์สิทธิ์เพื่อบูชาพญาแถน ที่คนอีสานเชื่อว่า เป็นเทพผู้ศักดิ์สิทธิ์ที่คนอีสานให้ความเคารพนับถือ เปรียบผู้ให้กำเนิดเผ่าพันธุ์มนุษย์ และช่วยดลบันดาลให้เกิดความอุดมสมบูรณ์แก่แผ่นดิน พืชพันธุ์ธัญญาหาร ด้วยการดลบันดาลให้ฝนฟ้าตกต้องตามฤดูกาล ซึ่งน้ำฝนที่ได้จากฟ้าถือว่ามีความสำคัญต่อวิถีชีวิตของเป็นอย่างยิ่ง คนอีสานทั่วไปจึงมีความพิถีพิถันและให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง

fon klong toom 1

ฟ้อนกลองตุ้ม หรือ ฟ้อนส่วยมือ (ซวยมือ) เป็นการฟ้อนรำที่เก่าแก่และโบราณของชาวอีสาน เป็นศิลปะการฟ้อนรำที่มีความเชื่อแฝงอยู่ด้วย และยังเป็นศิลปะที่ผสมผสานระหว่างการฟ้อนรำกับดนตรี (กลองตุ้ม) เป็นการฟ้อนรำตามฉบับพื้นบ้าน คือ โยกย้ายท่วงท่าการฟ้อนรำไปตามอิสระ ไม่มีการกำหนดท่วงท่าที่แน่นอน ในอดีตนิยมฟ้อนด้วยผู้ชายทั้งหมด เป็นการฟ้อนรำประกอบจังหวะกลองตุ้ม ใช้ประกอบขบวนในการแห่บั้งไฟ การฟ้อนกลองตุ้มมีอยู่ 2 แบบด้วยกัน แบบที่หนึ่ง คือ การฟ้อนเป็นจังหวะในรูปแบบการฟ้อนแห่เป็นขบวน แบบที่สอง คือ การฟ้อนประกอบทำนองกาพย์เซิ้ง เพื่อขอเหล้าหรือปัจจัยไทยทาน (ฟ้อนเอาบุญบั้งไฟ หรือฟ้อนแบบกรมสรรพสามิต อ่อนช้อยตามดีกรีผู้ฟ้อน)

ฟ้อนกลองตุ้ม งานบุญบั้งไฟยโสธร 2565

การฟ้อนท่าฟ้อนที่ได้รับการสืบทอดมาตั้งแต่ครั้งบรรพบุรุษ รวมทั้งมีการคิดประดิษฐ์ท่าฟ้อนขึ้นใหม่ มีท่าฟ้อนพื้นฐาน 3 ท่า คือ

  • ท่าที่ 1 เริ่มด้วยท่ายกมือทั้งสองข้าง โดยกางข้อศอกให้ตั้งฉากและขนานกัน แบมือให้หลังมือหันเข้าหาผู้ฟ้อน แล้วแกว่งแขนขึ้นลงข้างลำตัวสลับไปมา ซ้าย-ขวา เป็นการเชื้อเชิญให้พี่น้องทั้งหลาย มาร่วมงานสนุกสนานรื่นเริงในประเพณีบุญบั้งไฟ
  • ท่าที่ 2 ยกมือทั้งสองแบออก แล้วไขว้กันอยู่ระดับหน้าผาก งอศอกเป็นการแสดงถึงความสามัคคีพร้อมเพรียงของชาวบ้าน
  • ท่าที่ 3 ยื่นแขนทั้งสองข้างออกไปข้างหน้า ให้ฝ่ามือขนานกัน มีความหมายให้ไปสู่จุดมุ่งหมายเดียวกัน การฟ้อนจะฟ้อนถอยหลัง

fon klong toom 4

การแต่งกายผู้ฟ้อน จะมีผ้าโพกศีรษะและหมวก ผ้าพันศีรษะชาวบ้านจะนิยมนำเอาผ้าขิด หรือผ้าสไบมาทำเป็นผ้าโพกศีรษะ ส่วนหมวกจะมีการประดิษฐ์หมวกจากลูกบวบหรือใยบวบ จากนั้นจึงนำดอกไม้ประดิษฐ์มาประดับตกแต่งหมวกให้มีความสวยงามตามความชอบ ส่วนมือจะใส่ซวยมือ มีลักษณะเหมือนเล็บมือที่ยาวยื่นออกมาจากร่างกาย ประดับให้สวยงามด้วยด้ายหลากสี ส่วนลำตัวใช้ผ้าไส้เอี่ยน หรือผ้าเบี่ยงหรือผ้าสไบเป็นผ้าที่ใช้พาดบ่า ถ้าพาดบ่าซ้ายก็จะเฉียงไปทางขวา ถ้าพาดบ่าขวาก็จะเฉียงไปทางซ้าย และใส่สร้อยพาดไหล่ หรือที่เรียกว่า ตุ้มเป ตุ้มกลม ผ้านุ่งจะใช้ผ้าวา ผ้าวาที่นำมาสวมใส่ในการฟ้อนกลองตุ้มของบ้านผึ้งเป็นผ้าที่ทอด้วยมือ และมีวิธีการนุ่งผ้าที่เป็นเอกลักษณะ และว่าการนุ่งแบบ “ทรงซายญ่อน” หรือ “แยกชายผ้า” และประดับด้วยหมากฮิ่ง หมากขอ หมากขิค เป็นเครื่องประดับตกแต่งห้อยไว้ที่เอว ชาวบ้านใช้เป็นสัญลักษณ์แทนเสียงกบเสียงเขียด เวลาฟ้อนไปขณะที่กำลังโยกย้ายจะทำให้เกิดเสียงดัง ถือว่าเป็นความเชื่อที่แฝงไว้ในการฟ้อนกลองตุ้ม

fon klong toom 3

สำหรับเครื่องดนตรีที่ใช้บรรเลงในการฟ้อนกลองตุ้มมีอยู่ด้วยกัน 2 ชนิดคือ กลองตุ้ม กับ พางฮาด

  • กลองตุ้ม ถือว่าเป็นเครื่องดนตรีหลัก มีความสำคัญอย่างยิ่งในการฟ้อนกลองตุ้ม ตามความเชื่อของชาวบ้าน "กลองตุ้ม" เปรียบเสมือนเสียงของฟ้าร้อง เสียงตุ้ม ตุ้ม ตุ้ม เป็นเสียงที่ฟังแล้วดูหนักแน่น ถ้าถึงช่วงเทศกาลบุญบั้งไฟแล้วเมื่อได้ยินเสียง ตุ้ม ตุ้ม ตุ้ม ชาวบ้านจะมีความรู้สึกตื้นเต้น มีความกระตือลือล้น อยากจะมาร่วมเล่นและร่วมฟ้อน เสียงกลองตุ้มจึงถือว่าเป็นพระเอกของงาน ลักษณะทางกายภายของกลองตุ้มจะเป็นกลองสองหน้า ทำจากไม้เนื้ออ่อน เช่น ไม้ขนุน ไม้มะม่วง เป็นต้น หน้ากลองจะทำจากหนังวัวหรือหนังควาย ในอดีตจะขึงหน้ากลองด้วยหนังสัตว์แต่ปัจจุบันขึงหน้ากลองด้วยเชือก ไม้ตีจะทำขึ้นอย่างง่ายเพื่อความสะดวก กลองตุ้มเป็นสัญลักษณ์ที่สะท้อนให้เห็น ศิลปะและความเชื่อ การประดิษฐ์สิ่งของเครื่องใช้ และนำมาประยุกต์ใช้ในด้านศิลปะบวกกับความเชื่อ จึงถือว่าเป็นภูมิปัญญาในการดำเนินชีวิตที่มีความสอดคล้องกับลักษณะทางภูมิประเทศ และสิ่งแวดล้อมของมนุษย์
  • พางฮาด เสียงของพางฮาดชาวบ้านมีความเชื่อและมีจินตนาการว่า เป็นเสียงของฟ้าผ่า (เมื่อมีฟ้าร้องแล้วต้องมีฟ้าผ่า) พางฮาดทำจากทองเหลืองหลอม และนำมาตีเป็นแผ่นเหมือนฆ้อง แต่ด้านหน้าไม่มีลักษณะนูนออกมาหรือเรียกอีกอย่างว่า ฆ้องหน้าแบน หรือ ฆ้องหน้าเรียบ ถ้าจะให้ชัดแล้วพางฮาดกับฆ้องของคนจีนก็มีลักษณะทั้งกายภาพและเสียงเหมือนกัน เสียงของพางฮาดจะมีเสียงดัง พาง พาง พาง สลับกับเสียงกลองตุ้ม เมื่อฟังแล้วจึงเหมือนกับเสียงฟ้าร้องกับเสียงฟ้าผ่า ตามจินตนาการของชาวบ้านจริงๆ

klongtum panghad

ในการฟ้อนจะเอากลองและพางฮาดหามใช้ราวเดียวกัน คนหาม 2 คน หันหน้าเข้าหากัน คนหนึ่งตีกลอง อีกคนตีพางฮาด คนหามกลองและพางฮาดจะเป็นผู้นำขบวนฟ้อน และตีกลองในจังหวะเดียวกัน คือ ตุ้ม-แปะ-ตุ้ม เมื่อจะเปลี่ยนท่าฟ้อน คนตีพางฮาดจะเป็นคนให้สัญญาณ ท่ารำไม่อ่อนช้อยแต่ดูสวยงามด้วยการแต่งกายที่ละลานตา โอกาสการแสดงของฟ้อนกลองตุ้ม คือ การแสดงในงานของท้องถิ่นและงานเทศกาลเทศกาลต่างๆ เช่น ประเพณีบุญบั้งไฟ งานเข้าพรรษา แห่เทียน งานข้าวสากข้าวประดับดิน งานพิธีอวยพรและต้อนรับแขกบ้านแขกเมือง

fon klong toom 2

การฟ้อนกลองตุ้ม เป็นการละเล่นมากกว่าการแสดง รูปแบบและลักษณะท่ารำจึงไม่ใช่ประเด็นหลักที่ชาวบ้านต้องคิดหรือต้องใส่ใจมากมาย เวลาฟ้อนจะต้องฟ้อนไปทิศเดียวกันหมด การตั้งแถวจะแบ่งออกเป็นสามช่วงหลัก ๆ คือ ช่วงแรกเป็นกลุ่มคนฟ้อนด้านหน้า ช่วงที่สองเป็นคนตีกลองตุ้มกับพางฮาด ช่วงที่สามเป็นกลุ่มคนฟ้อนกลุ่มหลัง ถ้ามีคนเล่นเป็นนายท้ายเรือก็เป็นสี่ช่วง แต่นายท้ายเรือมักจะใช้เพื่อความสนุกสนานหรือเพื่อตะโกนบอกเพื่อนๆให้รักษาขบวนแถวให้ตรง ถ้าแบ่งแยกให้ชัดเจนแล้วการฟ้อนกลองตุ้มจะมีอยู่สองกลุ่มหลักคือ กลุ่มคนฟ้อน กับ กลุ่มคนเล่นดนตรี (กลองตุ้มกับพางฮาด) กลุ่มคนฟ้อนนอกจากจะร่ายรำท่วงท่าไปตามจินตนาการและจังหวะของเสียงกลองเสียงพางฮาดแล้วยังมีการลำ (ร้อง) เป็นทำนองพื้นบ้าน บางครั้งก็เป็นการลำชมธรรมชาติ ลำล้อเลียน ลำให้ความรู้ ลำหยาบโลน (เพื่อความสนุกสนาน) ส่วนคนเล่นดนตรีจะต้องให้จังหวะกลองตุ้มกับจังหวะพางฮาดที่สนุกสนาน

ฟ้อนกลองตุ้มบ้านหนองบ่อ อุบลราชธานี

ฟ้อนกลองตุ้ม จะสะท้อนให้เห็นความสามัคคีและความพร้อมเพรียงกันของชาวบ้าน ที่มาฟ้อนรำกลองตุ้มประกอบประเพณีบุญบั้งไฟ ที่เป็นมรดกทางวัฒนธรรมสืบทอดต่อกันมา การที่เด็กและเยาวชนในหมู่บ้านได้แสดงออกกันด้วยความสนุกสนาน นับว่า เป็นกุศโลบายในการสืบทอดประเพณีอันดีงามของท้องถิ่นต่อไป

lilred

backled1

isan word tip

ประตูสู่อีสานบ้านเฮา

IsanGate.com

ปณิธานของเรา :

"ชนชาติที่เป็นอารยะ ต้องมีรากเหง้า และที่มาอันยาวนาน ด้วยภาษาและขนบธรรมเนียมของตนเอง"

: Our Web Site.

krumontree200x75
easyhome banner
ppor 200x75
isangate net
e mail
นโยบายความเป็นส่วนตัว Our Policy

ยินดีต้อนรับสู่ประตูอีสานบ้านเฮา เว็บไซต์ของเรา ใช้คุกกี้ (Cookies) เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น อ่านนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy) และนโยบายคุกกี้ (Cookie Policy)