Bar Imageน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นอันหาที่สุดมิได้
  • ธรรมะในดินแดนอีสาน

    พุทธศาสนา : เผยแผ่ เบ่งบาน งดงามในดินแดนอีสาน

  • เที่ยวงานแห่เทียนพรรษาอุบลราชธานี

    ชมความงามวิจิตรอุบลราชธานีแสงสีตระการตา และงานประเพณีแห่เทียนพรรษาอุบลราชธานี

  • เที่ยวนครพนม

    เที่ยวนครพนมชมความงดงามริมแม่น้ำโขง ไหลเรือไฟในวันออกพรรษา

  • ธรรมชาติงดงามบนภูกระดึง

    ความสุขที่คุณเดินได้ให้จดจำว่า ครั้งหนึ่งในชีวิตเราเคยพิชิตภูกระดึง

  • สามพันโบก

    รุ่งอรุณ ณ สามพันโบก มหัศจรรย์ลานหินกลางลำน้ำโขง

  • รุ่งอรุณ ณ ผาแต้ม

    ตะวันขึ้นก่อนใครในสยามประเทศ @ผาแต้ม อุบลราชธานี

  • เขาใหญ่

    ไปเที่ยวชื่นชมธรรมชาติมรดกโลก @อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ นครราชสีมา

  • ผามออีแดง

    ปลายฝนต้นหนาวไปชมทะเลหมอก @ผามออีแดง จังหวัดศรีสะเกษ

  • อีสานธรรมชาติสวยงามหลากหลาย

    ภาคอีสานมีธรรมชาติสวยงาม น้ำตก เสาหิน และมหัศจรรย์ธรรมชาติกุ้งเดินขบวน

  • ออกพรรษามาแห่ปราสาทผึ้ง

    ออกพรรษาเชิญมาเที่ยวสกลนคร ชมขบวนแห่ปราสาทผึ้งอันงดงาม

: Our Sponsor

adv200x300 2

: Our Fanpage

: My Web Site

krumontree200x75
easyhome banner
ppor 200x75
isangate net
e mail

ผลไม้หายากภาคอีสาน (2)

isan fruit

นำเสนอผลไม้อีสานหายากที่บางคนลืมเลือนไปในตอนที่แล้ว เกินความคาดหมายมากครับ แค่วันแรกมีคนคลิกเข้ามาอ่านมากกว่า 150 ครั้ง แล้วยังมีจดหมายก้อมส่งมาว่า "ขออีกๆๆ" เลยต้องจัดให้ตามคำขอเป็นตอนที่ 2 ใครมีข้อมูลเพิ่มเติมจะชี้แนะก็ช่วยบอกมานะขอรับ ด้วยความขอบพระคุณยิ่ง

mak tong lang

หมากต้องแล่ง อีกหนึ่งผลไม้ที่นับวันจะถูกลืม

หมากต้องแล่ง หรือ นมน้อย ภาษาเขมรท้องถิ่นแอดเรียกว่า "แพล กำ ปร๊อก" ที่อื่นๆ มีชื่อเรียกต่างออกไปอีก เช่น น้ำเต้าแล้ง (นครราชสีมา) น้ำน้อย (เลย) ต้องแล่ง (มหาสารคาม) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Polyalthia evecta (Pierre) Finet & Gagnep. ชื่อวงศ์ Annonaceae

ในช่วงฤดูทำนาหรือหน้าฝน สมัยยังเป็นเด็กน้อย เมื่อพาควายไปเลี้ยงแถวชายป่า เพราะพื้นที่นามีข้าวกำลังงามจึงปล่อยเลี้ยงไม่ได้เดี๋ยวมันจะกินต้นข้าวแทนหญ้า ผูกควายให้เชือกยาวพอมันหากินหญ้าได้แต่ไม่ถึงนาข้าว ผู้เขียนก็มักจะเดินเสาะหาผลไม้ป่ามากิน หนึ่งในนั้นคือ หมากต้องแล่ง นั่นเอง

หมากต้องแล่ง หรือบ้างก็ว่า บักต้องแล่ง เป็นไม้พุ่มเตี้ย ในหนึ่งพุ่มหรือหนึ่งกอจะมีหลายๆ ลำต้นเกิดอยู่ด้วยกัน แต่ที่เป็นต้นเดี่ยวก็มีเช่นกัน หมากต้องแล่งออกลูกเป็นพวง พวงหนึ่งจะมีหลายๆ ลูกประมาณ 4-30 ลูก หมากต้องแล่งมีผลเล็ก ทรวดทรงกลม โตประมาณ 5-6 ม.ม. ผลดิบสีเขียว ผลสุก สีแดง ผลสุกรสชาติหวาน ซึ่งในหนึ่งลูกจะมีเนื้อให้กินหวานอร่อยจริงๆ นิดเดียว ที่เหลือคือ เมล็ด หนึ่งลูกจะมีหนึ่งเมล็ด โดยปกติไม่นิยมกินเมล็ด แต่บางคนก็เคี้ยวกินทั้งเมล็ดก็มี

หมากต้องแล่ง แม้จะให้ความอร่อยได้ไม่จุใจ ให้ความอิ่มได้ไม่เต็มท้อง แต่นั่นคือ ผลไม้ป่าละเมาะ ที่ให้ความสุขเล็กๆ น้อยๆ แก่เด็กๆ บ้านๆ อย่างเราครับ

ข้อควรระวัง : ตามพุ่มต้นต้องแล่ง อาจมีรังแตน เช่น แตนขี้หมา และแตนราม เป็นต้น ดังนั้น การเปิดหาหมากต้องแล่ง ควรใช้ลำไม้ยาวๆ หรือไม่ตีควาย ช่วยเปิดหา มิเช่นนั้น ท่านอาจถูกแตนตอดได้ (แตนตอด = แตนต่อย)

สรรพคุณของหมากต้องแล่ง    
  • ยาสมุนไพรพื้นบ้านจังหวัดอุบลราชธานี ใช้ ราก เข้ายากับเครือไส้ไก่ และตะไคร้ป่า ต้มน้ำดื่ม แก้โรคกระเพาะอาหาร เข้ากับรากลกคก และรากหุ่นไห้ ต้มน้ำดื่ม ช่วยบำรุงน้ำนมหญิงหลังคลอด
  • ยาพื้นบ้านจังหวัดมุกดาหาร ใช้ ราก แก้ฝีภายใน
  • ยาพื้นบ้านจังหวัดอำนาจเจริญ ใช้ ราก แก้ร้อนใน ท้องอืด ท้องเฟ้อ แก้ปวดเมื่อย ต้มรากดื่มขณะอยูไฟหลังคลอดบุตร
  • ยาพื้นบ้านที่อื่นๆ ใช้ ราก ต้มน้ำดื่ม แก้กล้ามเนื้อท้องเกร็ง บำรุงน้ำนม แก้ปวดเมื่อย

Look waa

ลูกหว้า

ลูกหว้า หรือ หมากหว้า (Syzygium cumini) นั้นอาจจะเป็นผลไม้ที่ไม่ค่อยคุ้นชื่อ หรือคุ้นหูกันเท่าไหร่นัก เพราะเป็นผลไม้ที่กำลังจะสูญพันธุ์ แต่ในภาคอีสานนั้นเริ่มมีการนำลูกหว้าหรือหมากหว้ามาเริ่มปลูกขยายพันธุ์กันมากขึ้น ด้วยคุณประโยชน์และสรรพคุณในลูกหว้านั้นมีมากพอสมควร 

หว้า ชื่อสามัญ Jambolan plum, Java plum, Jambul มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Syzygium cumini (L.) Skeels  จัดอยู่ในวงศ์ชมพู่ MYRTACEAE  มีชื่อเรียกอื่นๆ ว่า หว้า หว้าป่า หว้าขาว หว้าขี้นก หว้าขี้แพะ แต่สำหรับชาวฮินดูจะเรียกลูกหว้านี้ว่า “จามาน” หรือ “จามูน” ต้นหว้าจัดเป็นพันธุ์ไม้ยืนต้นชนิดหนึ่ง ซึ่งเป็นผลไม้ที่มีต้นกำเนิดในประเทศบังคลาเทศ อินเดีย เนปาล ปากีสถาน ศรีลังกา ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย แต่สำหรับในประเทศไทยเรานั้น ต้นหว้าเป็นพันธุ์ไม้พระราชทาน และเป็นต้นไม้ประจำจังหวัดเพชรบุรี และยังถือว่าต้นหว้าเป็นไม้มงคลในเรื่องของความสำเร็จและชัยชนะอีกด้วย 

ลูกหว้า เป็นผลไม้ที่เราอาจจะไม่ค่อยคุ้นเคยกันเท่าไหร่ แต่คุณรู้หรือไม่ว่า ผลไม้ชนิดนี้มีคุณค่าทางโภชนาการสูง เพราะลูกหว้านั้นอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุอย่างวิตามินซี ฟอสฟอรัส แคลเซียม และคาร์โบไฮเดรต ซึ่งถือว่ามีประโยชน์อย่างมากต่อสุขภาพ โดยนิยมนำผลสุกมารับประทานเป็นผลไม้ (ผลสุกจะมีลักษณะสีม่วงและดำ มีรสออกเปรี้ยวอมหวานและอมฝาด) และใช้ทำเป็นเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ

นอกจากนี้ ลูกหว้า ยังมีสรรพคุณใช้เป็นยารักษาโรคและอาการต่างๆ อีกด้วย ด้วยการนำใบและเปลือกของต้นหว้ามาสกัดเป็นน้ำมันหอมระเหย โดยจะมีสรรพคุณที่ค่อนข้างหลากหลาย เช่น ช่วยย่อยอาหาร ช่วยลดการจับตัวของลิ่มเลือด มีฤทธิ์ต่อต้านเชื้อแบคทีเรีย ต้านโรคมะเร็ง เป็นต้น 

สรรพคุณของลูกหว้า
  • ประโยชน์ทางยา ใช้เปลือก มีรสฝาดรับประทานเป็นยาแก้บิด ต้มในน้ำเดือด แล้วอมแก้ปากเปื่อย คอเปื่อยและเป็นเม็ดแก้น้ำลายเหนียว
  • แพทย์พื้นบ้าน ใช้ใบและผล แก้บิดและท้องร่วง แก้ถ่ายเป็นมูกเลือด ต้มใบและผลในน้ำเดือด รับประทานหลังมีอาการ
  • เมล็ดในลูกหว้า แก้ปัสสาวะมาก แก้ท้องร่วงและบิด และถอนพิษแสลงใจ (พิษแสลงใจ หมายถึงอาการใจหวิว ใจสั่น หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ) ต้มในน้ำเดือด รับประทานหลังมีอาการ
  • ใช้ใบและเมล็ดหว้า นำมาต้มหรือบดให้ละเอียด แล้วนำมารับประทานเพื่อรักษาอาการของโรคเบาหวานได้ เนื่องจากมีสารชนิดหนึ่งที่ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้
  • ใบและเมล็ดหว้า นำมาตำให้แหลกแล้วใช้ทารักษาโรคผิวหนังได้ หรือนำน้ำที่ได้มาล้างแผลเน่าเปื่อยได้
การใช้หว้าปรุงอาหาร

ยอดอ่อนของหว้าสามารถนำมารับประทานเป็นผักสดได้ ผลอ่อนมีสีแดง เมื่อผลแก่จัด มีสีดำม่วง รับประทานเป็นของหวาน และใช้ทำเป็นเครื่องดื่มหรือไวน์ได้ ส่วนน้ำจากลูกหว้าถือเป็น "น้ำปานะที่พระพุทธองค์ทรงมีพุทธานุญาตแก่พระภิกษุให้ฉันยามกาลิกได้ (ของที่พระภิกษุสงฆ์รับประเคนไว้แล้ว ฉันในช่วงหลังเที่ยงวันได้ทั้งวัน ทั้งคืนจนถึงก่อนรุ่งเช้า)

ข้อควรระวังในด้านรับประทานลูกหว้า

แม้ลูกหว้าจะมีประโยชน์หลายอย่าง แต่ในการนำมารับประทานก็มีข้อควรระวัง ดังนี้

  • สตรีมีครรภ์และผู้ที่ให้นมบุตรควรหลีกเลี่ยงการรับประทานลูกหว้าเพื่อสรรพคุณทางยา เนื่องจากยังไม่ปรากฏหลักฐานทางการแพทย์ที่เพียงพอจะยืนยันความปลอดภัยของการใช้ลูกหว้ารักษาปัญหาสุขภาพในสตรีมีครรภ์และผู้ที่ให้นมบุตร
  • ผู้ป่วยโรคเบาหวานที่ต้องการรับประทานลูกหว้า ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเสมอ เพื่อความปลอดภัยในการบริโภค เนื่องจากลูกหว้าดิบ 100 กรัม ให้พลังงานถึง 60 กิโลแคลอรี

 

 

 

isan word tip

ประตูสู่อีสานบ้านเฮา

IsanGate.com

ปณิธานของเรา :

"ชนชาติที่เป็นอารยะ ต้องมีรากเหง้า และที่มาอันยาวนาน ด้วยภาษาและขนบธรรมเนียมของตนเอง"

: Our Web Site.

krumontree200x75
easyhome banner
ppor 200x75
isangate net
e mail
นโยบายความเป็นส่วนตัว Our Policy

ยินดีต้อนรับสู่ประตูอีสานบ้านเฮา เว็บไซต์ของเรา ใช้คุกกี้ (Cookies) เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น อ่านนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy) และนโยบายคุกกี้ (Cookie Policy)

Ribbon