คันเจ้าได้ขี่ซ้างกั้งฮ่มเป็นพระยา อย่าได้ลืมคนทุกข์ผู้ขี่ควายคอนกล้า ## ถ้าได้ดิบได้ดีหรือได้เป็นใหญ่แล้ว ก็อย่าได้ลืมผู้คนรอบข้าง @อย่าลืมบุญคุณคนที่เคยเอื้อเฟื้อเรา ## |
ฮันนี่ ศรีอีสาน มีชื่อจริงคือ สุพิณ เหมวิจิตร เกิดเมื่อวันที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2513 เป็นลูกสาวคนสุดท้องของพี่น้อง 14 คน ของนายคำทา และนางมี เหมวิจิตร เกิดที่บ้านเมย ตำบลดงลิง อำเภอกมลาไสย จังหวัดกาฬสินธุ์ จบการศึกษาภาคบังคับ ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จากโรงเรียนโคกเมยประชาพัฒนา เมื่อปี พ.ศ. 2526 ด้วยใจรักในชีวิตศิลปิน ปี พ.ศ. 2529 ขณะอายุ 16 ปี ก็ได้เข้าสู่วงการหมอลำ เป็นนางเอกหมอลำยอดนิยมอยู่หลายคณะ เช่น ดอกฟ้ามหากาฬ เลิศฟ้าพรสวรรค์ ฯลฯ
เธอเริ่มบันทึกเสียงชุดแรกเมื่อ 25 มกราคม พ.ศ. 2534 กับบริษัท เยนาวี่ โปรโมชั่น ในอัลบั้มชุด "น้ำตาหล่นบนที่นอน" โดยการชักชวนของครูเพลงหมอลำ ดาว บ้านดอน และในขณะนั้นเพลง "เสือ" ของดารานักร้อง ฮันนี่ ภัสสร บุณยเกียรติ กำลังโด่งดัง หลายๆ คนทักว่าหน้าตาของเธอคล้ายกับ ฮันนี่ ภัสสร บุณยเกียรติ เธอจึงใช้ชื่อในการแสดงว่า "ฮันนี่ ศรีอีสาน" (ซึ่งฮันนี่เป็นหมอลำคนแรก และคนเดียวที่สวมชุดว่ายน้ำ ขึ้นปก "มาลัยไทยรัฐ") ช่วงนั้นนักร้องหมอลำนิยมตั้งชื่อตามอย่างดารา หรือนักร้องสตริงดังๆ อาทิ จินตหรา พูนลาภ อำพล ภูไท มาช่า ฟ้าอิสาน ฯลฯ
ด้วยน้ำเสียงที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว และแนวการลำที่ไม่เหมือนใคร ทำให้เธอประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากกับผลงานชุดแรก ต่อมาวันที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2534 เธอก็มีผลงานชุด "วอนพี่มีรักเดียว" ตามมาอีก ซึ่งผลงานทั้งสองชุดได้รับการต้อนรับอย่างดีจากแฟนเพลงทั่วประเทศ
ฮันนี่ ศรีอีสาน จึงได้เปิดวงดนตรีของตนเองตามคำเรียกร้องของแฟนเพลง จวบจนถึงบั้นปลายของชีวิต ซึ่งเธออยู่ในวงการเพลงระดับชาติได้เพียงแค่ 1 ปีเท่านั้น หลังการเสียชีวิต ทางต้นสังกัดได้จัดทำเทปชุด "บันทึกการแสดงสดด้านหน้าเวทีของฮันนี่ ศรีอีสาน" ตามออกมาอีก 1 ชุด
ถ้า พุ่มพวง ดวงจันทร์ คือ ต้นแบบของนักร้องลูกทุ่งสำเนียงภาคกลางเป็นจำนวนมาก ฮันนี่ ศรีอีสาน ก็ถือเป็นต้นแบบหมอลำรุ่นหลังๆ เกือบทุกคน โดยเฉพาะกับ ต่าย อรทัย ที่ฝึกร้องเพลงด้วยการร้องเพลงของฮันนี่ และถือว่าเป็นครูในดวงใจคนหนึ่ง เมื่อไปทำการแสดงที่ใดพอไหว้และระลึกถึงฮันนี่ทุกครั้ง ก็จะทำให้การแสดงลุล่วงไปได้ไม่มีอุปสรรค์ใดๆ และถือเอาแนวของฮันนี่ ศรีอีสาน เป็นแบบอย่างในการร้องเพลง ไม่ว่าจะร้องหรือลำ รวมทั้งการเอาผลงานขงฮันนี่ไปขับร้องใหม่หลายเพลง ยังมีนักร้องรุ่นหลังที่ตามมาอย่าง นุช วิลาวัลย์ รวมทั้งนางเอกรุ่นใหม่วัยทีนอย่าง ยูกิ เพ็ญนภา (คณะนามวิหค) เป็นต้น ก็ล้วนใช้ฮันนี่เป็นต้นแบบในการร้องและลำ
"ผลงานเพลงของฮันนี่มีไม่มากนัก แต่ฟังไพเราะทุกเพลง อาทิ น้ำตาหล่นบนที่นอน วอนพี่มีรักเดียว ขอแล้วไม่แต่ง เขาแต่งเราตรม รักสองแผ่นดิน ฯลฯ ซึ่งมีผู้นำมาขับร้องใหม่มากมาย แม้แต่ศิลปินแห่งชาติ "บานเย็น รากแก่น" ก็มีผลงานล่าสุดกับค่ายบีบีเรคคอร์ด ก็นำเพลงของฮันนี่มาขับร้องใหม่เกือบทั้งหมด”
แถมยังมิบรรดาเกจิในวงการหมอลำบางคนกล่าวกันว่า "ถ้าฮันนี่ยังอยู่ ก็คงไม่มีหมอลำหลายๆ คนได้เกิดแน่ๆ เพราะเธอมีลีลาลำที่เก่งกาจ เสียงดีและสวยเพียบพร้อมแบบที่หาได้ยากที่จะมีคุณสมบัติครบถ้วนเช่นนี้"
ฮันนี่ ศรีอีสาน มีช่วงชีวิตของความเป็นดาวเด่นในระดับประเทศ ให้คนไทยวงกว้างได้มีความสุขเพียงขวบปีเท่านั้น ฮันนี่ ศรีอีสาน เสียชีวิตขณะกลับจากการแสดงที่ อำเภอปรางกู่ จังหวัดศรีสะเกษ โดยเดินทางมากับรถยนต์ปิกอัพแล้วมาพลิกคว่ำ ที่ถนนศรีสะเกษ-อุบลราชธานี กิโลเมตรที่ 6-7 ตำบลหนองแก้ว อำเภอเมืองศรีสะเกษ เมื่อวันพุธที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2535 เวลา 04.30 น. คอหักเสียชีวิตคาที่ (ตามข่าวกล่าวว่า "เธอไม่ได้คาดเข็มขัดนิรภัย" จึงทำให้เสียชีวิต)
ฮันนี่ ศรีอีสาน เสียชีวิตขณะที่มีอายุเพียง 21 ปี 4 เดือน 4 วัน จุดที่ฮันนี่ประสบอุบัติเหตุ มีการสร้างศาลไว้เป็นที่ระลึก และในวันครบรอบการเสียชีวิตของเธอ ก็จะมีการจัดการแสดงคอนเสิร์ตอยู่เป็นประจำ ทั้งนี้วันครบรอบเสียชีวิตของฮันนี่ บรรดานักร้องลูกทุ่งหลายคน เช่น ต่าย อรทัย และนักร้องหมอลำหลายๆ คณะจะแวะไปสักการะศาลของฮันนี่กันทุกปี
มีบางคนเล่าว่า.... เมื่อขับรถผ่านตอนประมาณ ตี 1- ตี 2 จะเห็นเป็นเวทีแสงสีเสียงยิ่งใหญ่อลังการ เหมือนมีงานคอนเสิร์ตตรงศาลนั้น ซึ่งมารู้อีกทีตอนที่มีคนบอกว่า "ตรงนั้นเป็นศาลของนักร้องดังฮันนี่" จึงเป็นเรื่องที่น่าขนลุก และใครที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับศพของเธอ และนำทรัพย์สมบัติของเธอไปจากที่เกิดเหตุจะมีอันเป็นไปทุกราย แม้กระทั่งนายตำรวจที่พบศพเธอคนแรก ก็มีอันเป็นไปเสียชีวิตในสถานีเดียวกับฮันนี่
จึงยังคงเป็นที่กล่าวขานถึงความเฮี้ยน และอาถรรพ์จวบจนทุกวันนี้ ในเรื่องวิญญาณของ "สุพิณ เหมวิจิตร" หรือ "ฮันนี่ ศรีอีสาน" ราชินีลูกทุ่งหมอลำผู้ล่วงลับ จนกระทั่งล่าสุด มีการเปิดเผยเรื่องย้ายศาลมาตั้งใหม่ที่บ้านเกิด เพราะเธออยากกลับบ้าน จึงมาบอกให้ย้ายศาลจากศรีสะเกษ มาตั้งใหม่ที่กาฬสินธุ์
จากการเปิดเผยของ "คำศรี เหมวิจิตร" ซึ่งเป็นพี่สาวแท้ๆ ของฮันนี่ ทั้งนี้ พี่สาวราชินีลูกทุ่งหมอลำในตำนาน อ้างว่าวิญญาณน้องสาวตน ได้ไปเข้าฝันพระอาจารย์ประจักษ์ เมื่อถูกถามว่าชื่ออะไร ได้ตอบทันทีว่า นางสาวสุพิณ เหมวิจิตร พร้อมกับร้องห่มร้องไห้ บอกว่า "หนูอยากกลับมาอยู่บ้านเกิดหนู" อยากให้พระอาจารย์ช่วยสร้างศาลให้ ที่บ้านเลขที่ 62 หมู่ 11 บ้านเมย ตำบลดงลิง อำเภอกมลาไสย จังหวัดกาฬสินธุ์
จากนั้นพระอาจารย์ได้ดูที่ดินที่จะสร้างศาล และนัดช่างก่อสร้างมาเริ่มสร้างศาลเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2558 สร้างเสร็จเมื่อวันที่ 29 สิงหาคม ปีเดียวกัน ใช้งบประมาณกว่า 700,000 บาท และได้นำเอาอัฐิฮันนี่เข้าศาลเมื่อวันที่ 26 กันยายน 2558 และได้ฉลองเปิดศาลใหม่ ซึ่งก่อนจะได้นำดวงวิญญาณ "ฮันนี่ ศรีอีสาน" กลับมาสู่บ้านเกิดไม่ใช่เรื่องง่าย ได้ทำพิธีถึง 3 ครั้ง ถึงได้ดวงวิญญาณของฮันนี่กลับมาบ้านเกิดตัวเอง ครั้งที่ 3 ได้นิมนต์พระชั้นผู้ใหญ่เจ้าคณะอำเภอไปขอดวงวิญญาณฮันนี่ถึงได้มา ทั้งนี้เรื่องดังกล่าวเป็นความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านด้วยนะครับ
ถ้าวันนี้ (พ.ศ.2564) ฮันนี่ ศรีอีสาน ยังมีชีวิตอยู่ เธอจะเป็นสาวทรงเสน่ห์ วัย 51 ปี ที่หลายคนต้องยกย่องให้เป็น “ราชินีหมอลำ” กันเลยทีเดียว เกจิในวงการหมอลำบางคนกล่าวกันว่า "ถ้าฮันนี่ ยังอยู่ ก็คงไม่มีหมอลำหลายๆ คนได้เกิดแน่ๆ เพราะเธอมีลีลาลำที่เก่งกาจ เสียงดีและสวยเพียบพร้อมแบบที่หาได้ยากที่จะมีคุณสมบัติครบถ้วนเช่นนี้"
รวมกลอนลำฮิตดนตรีแบบต้นฉบับ จากราชินีหมอลำ "ฮันนี่ ศรีอีสาน"
ข้อมูลจาก : คอลัมน์ เป็นคุ้งเป็นแคว โดย... เคน สองแคว
และภาพบางส่วนมาจาก Facebook : ฮันนี่ ศรีอีสาน
ยินดีต้อนรับสู่ประตูอีสานบ้านเฮา เว็บไซต์ของเรา ใช้คุกกี้ (Cookies) เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น อ่านนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy) และนโยบายคุกกี้ (Cookie Policy)